ทำไมต้องสร้าง วงจรพลังงานฮวงจุ้ย​ภายในบ้านด้วย ธาตุทั้ง 5

ทำไมต้องสร้าง วงจรพลังงานฮวงจุ้ย​ภายในบ้านด้วย ธาตุทั้ง 5

ต้นกำเนิดศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญญาธาตุ

 

Ep.4 ทำไมต้องสร้าง วงจรพลังงานภายในบ้านด้วย ธาตุทั้ง 5

จากบทความเกี่ยวกับเรื่องต้นกำเนิดศาสตร์ฮวงจุ้ยปัญจธาตุที่ผมนำเสนอมาใน 4 ตอนก่อนหน้านี้ ที่นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องพลังงานฮวงจุ้ยที่แท้จริงที่ไหลเข้าสู่ภายในตัวบ้าน และภายในห้องนอนแต่ละห้องแล้วส่งผลต่อ สุขภาพ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในเชิงวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไร
 

จากที่ผมได้เก็บสถิติมา 20 กว่าปีเกี่ยวกับเรื่องการสร้างวงจรพลังงานภายในที่แปรผันกับองศาการไหลเข้าของพลังงานที่แตกต่างกันทั้งหมด 360 องศา ที่จะต้องใช้การปรับพลังงานฮวงจุ้ยที่มีวงจรพลังงาน 360 รูปแบบที่แตกต่างกัน โดยเกิดจากการทดลอง สังเกตและเก็บสถิติด้วยตัวผมเอง แล้วนำมาใช้ในการปรับพลังงานฮวงจุ้ย
 
โดยจะแบ่งบ้านทั้งหลังออกเป็นทั้งหมด 8 ทิศ และจะต้องแบ่งห้องนอนแต่ละห้องเป็นทั้งหมด 8 ทิศ เพื่อสร้างวงจรพลังงานในกล่องประจุพลังงานทุกๆ ใบที่อยู่ภายในบ้านหลังนั้นแยกออกจากกัน ซึ่งในแต่ละห้องจะมีตำแหน่งที่ต้องการธาตุ ไม่เหมือนกันที่ไม่สามารถท่องจำแล้วนำไปใช้ได้ และไม่สามารถนำธาตุประจำทิศที่เป็นฮวงจุ้ยระบบเปิด มาใช้กับฮวงจุ้ยภายในบ้านหรือภายในตัวอาคาร ที่เป็นฮวงจุ้ยระบบปิดได้
 
เพราะในแต่ละองศาการไหลเข้าของประจุไฟฟ้าในอากาศ ที่ทำมุมกับแกนองศาแม่เหล็กโลกที่แตกต่างกัน จะเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เกิด ประจุบวก ที่ส่งผลร้าย และประจุลบ ที่ส่งผลดี ไหลเข้าสู่ภายในตัวอาคารที่ไม่เหมือนกันในแต่ละองศา จึงไม่สามารถท่องจำแล้วนำมาใช้ได้ว่า บ้านหันไปในทิศนี้จะปรับพลังงานฮวงจุ้ยอย่างไร เพราะใน 1 ทิศมีอยู่ทั้งหมด 45 องศา ที่มีค่าพลังงานแตกต่างกันอยู่ ถึง 45 รูปแบบ จึงต้องปรับวงจรพลังงานที่แตกต่างกันไปตามองศาการไหลเข้าของพลังงาน
 
ซึ่งเป็นการทดลองและสังเกตด้วยตัวผมมาทั้งหมด 20 กว่าปี จนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าหลักพลังงานฮวงจุ้ยที่แท้จริงคืออะไร และได้เก็บข้อมูลทั้งหมด 360 รูปแบบตั้งแต่ฮวงจุ้ยยุค 8 มาสู่ฮวงจุ้ยยุค 9 ที่มีพลังงานฮวงจุ้ยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ก็เป็นเพียงทฤษฎีที่ผมเก็บสถิติและค้นคว้าด้วยตนเอง และได้คิดค้นเป็นศาสตร์ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ เพื่อนำเสนอให้หลายๆ ท่านทดลองนำไปใช้ปรับพลังงานฮวงจุ้ยบ้านของท่านด้วยตัวท่านเอง
 
เพื่อความกระจ่างในสิ่งที่ผมเก็บสถิติและบันทึกมาตลอด ผมจึงขอนำสิ่งที่ผมสงสัยเกี่ยวกับเรื่องธาตุทั้ง 5 ในการปรับพลังงานฮวงจุ้ย ไปตั้งคำถามในโปรแกรม Cgat GPT ที่เก็บ data ข้อมูลต่างๆ ไว้มากมายและมีระบบ AI ช่วยประเมินผล เพื่อให้ได้คำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์ ดังต่อไปนี้
 

คำถามในเชิงวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ ธาตุทอง เมื่อประจุ ไหลเข้าไปในห้องที่มีวัสดุทำจากโลหะมันวาว จะส่งผลอย่างไร ?

 
1. การกระจายตัวของประจุ – โลหะเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี ดังนั้นประจุที่ไหลเข้าไปจะกระจายตัวไปทั่วพื้นผิวของโลหะ เพื่อให้เกิดสมดุลทางไฟฟ้า
 
2. การเหนี่ยวนำไฟฟ้า – หากมีประจุอยู่ใกล้พื้นผิวโลหะ อาจทำให้เกิดการเหนี่ยวนำประจุในโลหะ ส่งผลให้เกิดการจัดเรียงตัวของอิเล็กตรอนในตัวโลหะ
 
3. การสะท้อนหรือดูดซับประจุ – โลหะสามารถสะท้อนอิเล็กตรอนหรือประจุที่มีพลังงานสูงได้ แต่หากเป็นประจุที่มีพลังงานต่ำอาจถูกดูดซับและถ่ายเทเข้าสู่ตัวโลหะ
 
4. การเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้า – หากมีประจุสะสมอยู่ อาจทำให้เกิดสนามไฟฟ้าในห้อง ซึ่งจะส่งผลต่อพฤติกรรมของประจุอื่นๆ ที่เข้ามาในระบบ
 
5. การคายประจุและประกายไฟ – หากมีความต่างศักย์สูงมากระหว่างประจุและตัวโลหะ อาจทำให้เกิดการคายประจุแบบรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดประกายไฟหรือการปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้า
 
6. ผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า – หากมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ในห้อง ประจุที่ไหลเข้าไปอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์เหล่านั้น
 
โดยสรุป โลหะมันวาวจะมีบทบาทสำคัญในการกระจายและเหนี่ยวนำประจุ อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าและอาจทำให้เกิดการคายประจุในบางสถานการณ์
 

คำถามในเชิงวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ ธาตุไม้ เมื่อประจุ ไหลเข้าไปในห้องที่มีวัสดุทำจากไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ จะส่งผลอย่างไร ?

 
1. การสะสมของประจุไฟฟ้าสถิต – ไม้เป็นฉนวนไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่าประจุที่ไหลเข้าไปจะไม่ถูกกระจายตัวหรือถูกนำไฟฟ้าออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนในโลหะ ทำให้ประจุไฟฟ้าสามารถสะสมอยู่บนพื้นผิวของไม้หรือเฟอร์นิเจอร์ได้
 
2. การดูดซับหรือกักเก็บประจุ – เนื่องจากไม้มีโครงสร้างเป็นรูพรุนและสามารถดูดซับความชื้นได้ ระดับความชื้นของไม้จะมีผลต่อการเก็บประจุไฟฟ้า หากไม้แห้งมาก อาจทำให้ไฟฟ้าสถิตสะสมได้ง่าย แต่ถ้ามีความชื้นสูง ประจุอาจถูกกระจายออกไปเร็วขึ้น
 
3. การเหนี่ยวนำไฟฟ้าที่ต่ำ – ต่างจากโลหะที่สามารถกระจายหรือเหนี่ยวนำประจุได้ ไม้ไม่มีคุณสมบัตินี้ ทำให้ไม่มีผลกระทบทางไฟฟ้าในระดับสูง
 
4. การเกิดไฟฟ้าสถิตและแรงดึงดูดของฝุ่น – เนื่องจากประจุไฟฟ้าสถิตสามารถสะสมบนพื้นผิวไม้ได้ อาจทำให้เกิดแรงดึงดูดกับฝุ่นละอองในอากาศ ส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ไม้มีฝุ่นเกาะง่าย
 
5. การปล่อยประจุช้า – หากมีประจุสะสมอยู่บนพื้นผิวไม้ การปล่อยประจุหรือการคายประจุจะเกิดขึ้นช้าเมื่อเทียบกับโลหะ อาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตในบางกรณี เช่น เวลาสัมผัสพื้นผิวไม้ อาจรู้สึกถึงไฟฟ้าสถิตเบาๆ
 
สรุป ห้องที่มีวัสดุทำจากไม้จะไม่กระจายประจุได้ดีเหมือนโลหะ ทำให้ประจุสะสมบนพื้นผิวไม้และอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต ซึ่งอาจส่งผลให้ฝุ่นเกาะง่ายหรือเกิดแรงดึงดูดไฟฟ้าสถิตเมื่อสัมผัสพื้นผิว
 
คำถามในเชิงวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ ธาตุน้ำ เมื่อประจุ ไหลเข้าไปในห้องที่มีน้ำพุ หรือภาชนะใส่น้ำ จะส่งผลอย่างไร
 
1. การนำไฟฟ้าและการกระจายตัวของประจุ
น้ำ (โดยเฉพาะน้ำที่มีแร่ธาตุหรือเกลือละลายอยู่) เป็นตัวนำไฟฟ้าปานกลางถึงดี
ประจุที่ไหลเข้าไปจะสามารถกระจายตัวผ่านโมเลกุลของน้ำได้
หากน้ำบริสุทธิ์ (ไม่มีไอออนเจือปน) จะไม่นำไฟฟ้าดีมาก ทำให้ประจุอาจสะสมอยู่ได้นานขึ้น
 
2. การเหนี่ยวนำและสนามไฟฟ้า
น้ำสามารถได้รับอิทธิพลจากสนามไฟฟ้าที่เกิดจากประจุ ทำให้เกิด การเรียงตัวของโมเลกุลน้ำ เนื่องจากน้ำเป็นโมเลกุลมีขั้ว
ถ้ามีไฟฟ้าสถิตสูงมาก อาจทำให้น้ำเกิดการเคลื่อนที่เล็กน้อยเนื่องจากแรงดึงดูด/ผลักระหว่างประจุและโมเลกุลน้ำ
 
3. การคายประจุและการลดไฟฟ้าสถิต
น้ำสามารถช่วยดูดซับและกระจายประจุ ทำให้ลดไฟฟ้าสถิตในห้อง
ถ้ามีความชื้นสูงจากน้ำพุ ประจุที่อยู่ในอากาศอาจถูกดูดซับและถ่ายเทไปยังน้ำ ทำให้ประจุในอากาศลดลง
 
4. การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้า
ถ้ามีความต่างศักย์ไฟฟ้าสูงและน้ำสัมผัสกับตัวนำ อาจเกิด การคายประจุ (discharge) ผ่านน้ำ ทำให้เกิดการนำไฟฟ้าในน้ำชั่วขณะ
ในกรณีที่ประจุมีปริมาณมาก อาจเกิดประกายไฟไฟฟ้าเมื่อประจุเคลื่อนผ่านน้ำไปยังตัวนำอื่น
 
5. ผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าและสิ่งแวดล้อมในห้อง
น้ำในภาชนะหรือน้ำพุอาจช่วยลดการสะสมไฟฟ้าสถิตในอากาศ ลดโอกาสที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าสถิต
ถ้าห้องมีไอน้ำหรือความชื้นสูงมาก อาจทำให้เกิดการนำไฟฟ้าในอากาศเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์
 
สรุป น้ำสามารถช่วยดูดซับและกระจายประจุ ลดไฟฟ้าสถิตในห้องได้ แต่ถ้ามีความต่างศักย์สูง อาจทำให้เกิดการคายประจุผ่านน้ำ โดยเฉพาะหากน้ำมีแร่ธาตุละลายอยู่ ทำให้นำไฟฟ้าได้ดี
 

คำถามในเชิงวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ ธาตุดิน เมื่อประจุ ไหลเข้าไปในห้องที่มี วัสดุที่ทำจากดินเผา จะส่งผลอย่างไร

 
1. การนำไฟฟ้าและการสะสมของประจุ
ดินเผาเป็นฉนวนไฟฟ้า หมายความว่ามันไม่นำไฟฟ้าได้ดีเหมือนโลหะ ประจุที่ไหลเข้าไปจะไม่สามารถเคลื่อนที่หรือกระจายตัวได้ง่าย
ประจุอาจสะสมอยู่บนพื้นผิวของดินเผา ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ โดยเฉพาะถ้าอากาศแห้ง
 
2. การดูดซับประจุและความชื้น
วัสดุดินเผามีโครงสร้างรูพรุนและสามารถดูดซับน้ำหรือความชื้นได้
ถ้าดินเผามีความชื้นสูง (เช่น อิฐเปียกหรือกระถางต้นไม้ที่มีน้ำ) มันจะนำไฟฟ้าได้ดีกว่า ทำให้สามารถถ่ายเทประจุออกไปได้ง่ายขึ้น
แต่ ถ้าดินเผาแห้งมาก จะเป็นฉนวนที่ดีและทำให้ประจุสะสมอยู่ได้นานขึ้น
 
3. การเหนี่ยวนำไฟฟ้าที่ต่ำ
ดินเผาไม่นำไฟฟ้าได้ดีเหมือนโลหะ ดังนั้นจะไม่เกิดการเหนี่ยวนำประจุเหมือนที่พบในวัสดุที่เป็นตัวนำ
สนามไฟฟ้าที่เกิดจากประจุอาจมีผลต่อดินเผาน้อยมาก
 
4. การเกิดไฟฟ้าสถิต
ถ้าดินเผาแห้ง ประจุอาจสะสมอยู่ที่พื้นผิว ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ เช่น อาจรู้สึกถึงแรงไฟฟ้าสถิตเมื่อสัมผัสพื้นผิวของดินเผา
แต่เนื่องจากดินเผาไม่มีคุณสมบัติเก็บประจุได้ดีมาก การสะสมประจุอาจเกิดขึ้นชั่วคราวและหายไปเมื่อได้รับความชื้นจากอากาศ
 
5. ผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า
หากมีไฟฟ้าสถิตสะสมบนพื้นผิวดินเผา อาจดึงดูดฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้พื้นผิวดูสกปรกได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ดินเผาไม่มีผลกระทบโดยตรงต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องเหมือนวัสดุที่เป็นตัวนำไฟฟ้า
 
สรุป ดินเผาเป็นฉนวนไฟฟ้า ทำให้ประจุไม่สามารถเคลื่อนที่หรือกระจายตัวได้ดี อาจเกิดไฟฟ้าสถิตได้ โดยเฉพาะถ้าดินเผาแห้ง แต่ถ้ามีความชื้น ดินเผาจะสามารถดูดซับและกระจายประจุออกไปได้ง่ายขึ้น
 

คำถามในเชิงวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ ธาตุไฟ เมื่อประจุ ไหลเข้าไปในห้องที่มี เปลวไฟ จะส่งผลอย่างไร

 
1. การแตกตัวของไอออนในเปลวไฟ (Ionization in Flames)
เปลวไฟเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง ทำให้โมเลกุลของแก๊สบางส่วนแตกตัวเป็น ไอออนบวกและอิเล็กตรอน
ประจุที่ไหลเข้าไปในห้องอาจทำปฏิกิริยากับไอออนในเปลวไฟ ทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้า รอบเปลวไฟ
 
2. การเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าและการเบี่ยงเบนของเปลวไฟ
หากมี สนามไฟฟ้าสูง จากประจุที่ไหลเข้ามา อาจทำให้ เปลวไฟเอนตัวหรือเปลี่ยนทิศทาง ได้ เนื่องจากอนุภาคที่มีประจุในเปลวไฟจะถูกแรงไฟฟ้าผลักหรือดูด
ในการทดลองทางฟิสิกส์ เปลวไฟสามารถถูกดึงหรือผลักโดยใช้แหล่งกำเนิดไฟฟ้าแรงสูง (Electrostatic Field)
 
3. การดูดซับและปล่อยประจุของเปลวไฟ
เปลวไฟสามารถทำหน้าที่เป็น ตัวปล่อยประจุไฟฟ้า โดยการสร้างไอออนที่ช่วยปรับสมดุลของประจุในอากาศ
หากประจุที่ไหลเข้ามาในห้องมีปริมาณมาก อาจถูกทำให้เป็นกลาง (Neutralized) โดยปฏิกิริยากับไอออนในเปลวไฟ
 
4. การกระจายตัวของประจุจากกระแสอากาศร้อน (Convection Currents)
เปลวไฟทำให้อากาศรอบๆ ร้อนขึ้นและเกิด กระแสอากาศ (Convection Current) ซึ่งสามารถพัดพาประจุที่ไหลเข้ามาไปตามกระแสลมร้อน ทำให้ประจุที่เข้ามาในห้องอาจกระจายตัวได้เร็วกว่าปกติ
 
5. การคายประจุ (Electrical Discharge) และประกายไฟ
หากมีประจุสะสมอยู่ในห้องมากและมีความต่างศักย์สูง อาจเกิด การคายประจุไฟฟ้า (Electrical Discharge) ใกล้บริเวณเปลวไฟ
อาจทำให้เกิด ประกายไฟ (Spark Discharge) ซึ่งอาจจุดติดเชื้อเพลิงเพิ่มเติมได้
 
6. ผลกระทบต่อปฏิกิริยาเคมีในเปลวไฟ
ประจุที่ไหลเข้ามาอาจรบกวนหรือเปลี่ยนแปลง สมดุลของปฏิกิริยาเผาไหม้ โดยการทำให้เกิดไอออนเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนอัตราการเกิดปฏิกิริยา
 
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบนี้มักเกิดในกรณีที่มีประจุจำนวนมากและมีสนามไฟฟ้าแรงสูง
 
สรุป เมื่อประจุไหลเข้าไปในห้องที่มีเปลวไฟ เปลวไฟสามารถ ดูดซับและกระจายประจุ ได้ ทำให้สนามไฟฟ้าในห้องเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ กระแสอากาศร้อนจากเปลวไฟอาจทำให้ประจุไหลเวียนไปในทิศทางที่แตกต่างกัน หากมีสนามไฟฟ้าแรงสูง เปลวไฟอาจเอนตัวหรือเกิดการคายประจุที่นำไปสู่ประกายไฟได้
สรุป
 
จากคำถามต่างๆ เกี่ยวกับธาตุทั้ง 5 ที่ผมได้ถามในระบบ AI ท่านจะเห็นได้ว่าเมื่อประจุไฟฟ้าในอากาศ ได้ไหลไปกระทบกับวัสดุที่แตกต่างกัน จะเกิดปฏิกิริยาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งภายในบ้านทั้งหลัง หรือภายในห้องนอนแต่ละห้อง ที่เป็นกล่องประจุพลังงาน จะต้องมีการสร้างความสมดุลของประจุภายใน
 
ดังนั้น จากที่ผมได้นำเสนอมาตลอดด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ ว่า การสร้างวงจรพลังงานภายในเป็นสิ่งสำคัญอันดับต่อมา เพราะการปรับสมดุลประจุไฟฟ้าในอากาศภายในห้องที่เป็นระบบปิด จะส่งผลต่อสุขภาพ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในนั้น ส่งผลต่อระบบความคิดที่จะก่อให้เกิดปัญญาในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น หรือทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพสำหรับห้องที่มีประจุบวกอยู่ภายในห้องนั้น
 
จากข้อมูลที่ผมนำเสนอด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ และข้อมูลในเชิงวิทยาศาสตร์ ที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น พลังงานฮวงจุ้ยจึงไม่ใช่ความเชื่อ พลังงานฮวงจุ้ย คือ พลังงานในเชิงวิทยาศาสตร์ ที่สามารถนำมาทดลองปรับเปลี่ยนด้วยตนเอง แล้วจะต้องเห็นผลเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ครับ
Posted in ฮวงจุ้ยยุค 9.