ต้นกำเนิดศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ
Ep.7 ตกแต่งห้องด้วยโทนสีแดง สีชมพู สีส้ม ส่งผลอย่างไรต่อพลังงานฮวงจุ้ย
ในการออกแบบบ้าน ตกแต่งบ้าน หรือรีโนเวทบ้าน การใช้โทนสีต่างๆ ที่มีผลต่อพลังงานฮวงจุ้ยภายในตัวบ้านที่ท่านต้องศึกษา เพราะ โทนสีต่างๆ มีผลกระทบต่อวงจรพลังงานภายในบ้านของท่าน วันนี้เรามาศึกษาดูว่าถ้าหากท่านใช้โทนสีแดง สีชมพู หรือสีส้มม มาทาตกแต่งห้องรับแขก หรือห้องนอน แล้วจะส่งผลต่อพลังงานฮวงจุ้ยอย่างไร
สีแดง สีชมพู สีส้ม ส่งผลอย่างไรต่อ พลังงานฮวงจุ้ย
การใช้โทนสีมาปรับสมดุลพลังงานฮวงจุ้ยภายในตัวอาคาร เป็นวิธีการที่ศาสตร์ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ นำมาใช้ควบคู่กับการใช้วัสดุ วัตถุ หรือเฟอร์นิเจอร์ มาปรับสมดุลพลังงานในบริเวณบ้านในมุมต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเกิดจากที่ผมได้ทดลองปรับเปลี่ยน สังเกต และบันทึกสถิติด้วยตนเองมา 20 กว่าปี จนคิดค้นเป็นศาสตร์ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ แล้วได้นำเสนอเป็นบทความและคลิป เพื่อให้ท่านสามารถนำไปทดลองปรับพลังงานฮวงจุ้ยได้ด้วยตนเอง
ในบทความนี้เราจะศึกษาเกี่ยวกับโทนสีแดง สีชมพู และสีส้ม ที่เป็นโทนสีของธาตุไฟ ที่จะต้องนำมาใช้ในการปรับพลังงานฮวงจุ้ยในบางตำแหน่งภายในตัวบ้าน หรือห้องนอน เพราะการสร้างวงจรพลังงานฮวงจุ้ยจะต้องแบ่งแปลนบ้าน หรือแปลนห้องนอนออกเป็นทั้งหมด 8 ทิศ แล้วใช้ วัสดุ วัตถุ เฟอร์นิเจอร์ และโทนสี มาสร้างความสมดุลวงจรพลังงานด้วยธาตุทั้ง 5
นั่นหมายความว่า โทนสีของ ธาตุไฟ จะต้องการเป็นบางตำแหน่งภายในบ้าน ที่จะต้องมีความสมดุล ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป ผมจึงเลือกใช้ของตกแต่งบ้าน หรือ รูปภาพ ที่มีโทนสีของธาตุไฟ มาตกแต่งบ้านในบางมุมที่ต้องการธาตุไฟ มาปรับสมดุลในบริเวณนั้น
แต่การที่ท่านได้รับรู้ข้อมูลในศาสตร์ฮวงจุ้ยมาตลอดว่า จะต้องใช้โทนสีของธาตุประจำทิศมาใช้ภายในบ้าน หรือใช้โทนสีของธาตุ ตามทิศที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี มาทาสีห้องในบริเวณนั้นเพื่อส่งเสริมพลังงานฮวงจุ้ย
แม้กระทั่งการทาสีห้องนอนเพื่อส่งเสริมดวงชะตา สมมุติว่าผู้ที่มีดวงชะตาต้องการธาตุไฟมาส่งเสริม ซินแสอาจจะแนะนำให้ท่านทาสีห้องนอนด้วยโทนสีแดง สีชมพูหรือสีส้ม หรือทาผนังทั้งแผงด้วยโทนสีของธาตุไฟ แทนที่จะส่งผลที่ดีขึ้น กลับส่งผลร้ายอย่างรุนแรง ในเรื่องการเงิน และสุขภาพ
ซึ่งในเรื่องนี้เมื่อผมได้ไปตรวจสอบบ้านลูกศิษย์ที่เคยเชิญซินแสบางท่าน มาตรวจสอบฮวงจุ้ย แล้วส่งผลที่แย่ลง โดยซินแสบางท่านสั่งให้ทาผนังทั้งแผงด้วยโทนสีส้ม หรือซินแสบางท่านเจ้าแห่งการเคาะผนังบ้าน ก็จะให้ลูกศิษย์เปลี่ยนสีห้องตามทิศประจำปีที่เปลี่ยนแปลงไป แต่สุดท้ายส่งผลกระทบให้เจ็บป่วย และธุรกิจแย่ลง
ดังนั้นการที่ท่านจะใช้โทนสีของธาตุไฟ ด้วยการทาสีแดง สีชมพู มีสีส้ม ด้วยโทนสีเข้มๆ ทั้งห้องเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด โดยเฉพาะห้องนอน เพราะภายในห้องนอนของท่านทั้งห้องไม่ได้ต้องการโทนสีของธาตุไฟ แต่จะมีเพียงแค่บางตำแหน่งที่ต้องการ ธาตุไฟ มาปรับสมดุลพลังงาน โดยจะมีไม่เกิน 2 ทิศ ใน 8 ทิศที่ท่านได้แบ่งวงจรพลังงาน
ส่วนตำแหน่งไหนที่ต้องการธาตุไฟ มาปรับสมดุลพลังงาน ท่านต้องทดลองตามที่ผมได้เคยเขียนบทความและทำคลิปอธิบายไว้ ด้วยการแบ่งกล่องประจุพลังงานเป็น 8 ทิศ แล้วค่อยๆ ทดลองและสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยตัวตนเอง
สำหรับในฮวงจุ้ยยุค 9 การใช้โทนสีแดง จะต้องระวังเพราะ สีแดงที่มากเกินไปอาจจะเป็นโทนสีที่กระตุ้นพลังงานร้ายทั้งๆ ที่ โทนสีแดงเป็นโทนสีของธาตุไฟ จึงเป็นสิ่งที่ท่านต้องระวังให้ดีเมื่อได้รับรู้ข้อมูลว่า ในปีนี้ใครตั้งโคมไฟสีแดงไว้กึ่งกลางตัวบ้าน หรือให้ทาสีแดงบริเวณมุมบ้านทางทิศใต้ ซึ่งอาจจะได้รับผลร้ายโดยคาดไม่ถึง
ผมได้ค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องโทนสีแดง สีชมพู และสีส้ม ในเชิงวิทยาศาสตร์ว่า ส่งผลอย่างไรต่อประจุไฟฟ้า และ DNA ในร่างกายมนุษย์ เพื่อให้ท่านนำมาใช้เป็นองค์ประกอบในการวิเคราะห์ข้อมูลในสารฮวงจุ้ยว่า โทนสีมีผลต่อพลังงานฮวงจุ้ยจริงหรือไม่
ผลของโทนสีแดง สีชมพู และสีส้มต่อประจุไฟฟ้าและ DNA ในร่างกายมนุษย์
1. ผลของสีแดง สีชมพู และสีส้มต่อประจุไฟฟ้าในร่างกาย
โทนสีแดง สีชมพู และสีส้มอยู่ในช่วงความยาวคลื่น 590-700 นาโนเมตร (nm) ซึ่งเป็นแสงที่มีพลังงานต่ำกว่าแสงสีฟ้าหรือสีม่วง แต่มีผลกระตุ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างชัดเจน

กระตุ้นพลังงานไฟฟ้าในเซลล์: สีแดงเป็นสีที่ช่วยกระตุ้น การไหลเวียนของประจุไฟฟ้าในเซลล์ โดยเฉพาะใน ไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของเซลล์
เพิ่มการไหลเวียนของเลือด: แสงสีแดงช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว (Vasodilation) ทำให้ ออกซิเจนและสารอาหารถูกส่งไปยังเซลล์ได้ดีขึ้น
กระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System): ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น และร่างกายเข้าสู่โหมดตื่นตัว

ปรับสมดุลพลังงานไฟฟ้าในร่างกาย: สีชมพูเป็นโทนที่ให้พลังงานแบบอ่อนโยนกว่าแดง ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสงบแต่ยังมีพลัง
ช่วยลดความเครียดและความกังวล: มีผลต่อระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ทำให้สมองและกล้ามเนื้อผ่อนคลาย
กระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานในระดับที่พอดี โดยไม่ทำให้ร่างกายตื่นตัวเกินไป

ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและการเผาผลาญพลังงาน: สีส้มเป็นการผสมของสีแดงและสีเหลือง ทำให้มีพลังงานสูงและช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว
ปรับสมดุลของประจุไฟฟ้าในระบบย่อยอาหาร: สีส้มเชื่อมโยงกับ จักระช่องท้อง (Sacral Chakra) ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารและพลังงานของร่างกาย
ช่วยเพิ่มพลังและแรงจูงใจ: กระตุ้นให้ร่างกายและสมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ผลของสีแดง สีชมพู และสีส้มต่อ DNA

ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซม DNA: แสงสีแดงในช่วง 630-670 nm มีผลช่วยกระตุ้น ไมโทคอนเดรียให้ผลิต ATP (พลังงานของเซลล์) มากขึ้น ซึ่งช่วยให้เซลล์สามารถซ่อมแซม DNA ได้ดีขึ้น
ช่วยลดอาการอักเสบและความเสียหายของ DNA: มีงานวิจัยเกี่ยวกับ Red Light Therapy (RLT) ที่พบว่าแสงสีแดงช่วยลดการอักเสบและป้องกันการกลายพันธุ์ของ DNA

ช่วยลดความเครียดออกซิเดชันในระดับ DNA: สีชมพูที่อ่อนโยนช่วยให้ร่างกายหลั่ง เอนดอร์ฟิน (Endorphins) และเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากความเครียดที่อาจทำลาย DNA
มีผลต่อการควบคุมระดับฮอร์โมน: มีการใช้สีชมพูในกระบวนการบำบัดทางจิตใจเพื่อช่วยให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะสมดุล ซึ่งอาจช่วยรักษาเสถียรภาพของ DNA ได้

กระตุ้นการซ่อมแซม DNA ผ่านการเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน: สีส้มช่วยให้เซลล์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความเสียหายของ DNA ที่เกิดจากความเครียด
ช่วยให้ร่างกายรับวิตามิน D ได้ดีขึ้น: แสงแดดที่มีสีโทนส้มอ่อน ๆ (ช่วงเช้าและเย็น) ช่วยให้ร่างกายผลิต วิตามิน D ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปกป้อง DNA

แสงสีแดง (Red Light Therapy) มีงานวิจัยรองรับว่า ช่วยฟื้นฟูเซลล์และซ่อมแซม DNA
ควรใช้ สีชมพู และ สีส้ม ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการพลังบวกและสมดุลของพลังงาน
สรุปโดยรวม: โทนสีแดง สีชมพู และสีส้มมีผลกระตุ้นพลังงานในร่างกายและส่งเสริมการซ่อมแซม DNA โดยเฉพาะเมื่อใช้ในแสงที่เหมาะสม
จากข้อมูลในเชิงวิทยาศาสตร์จะเห็นได้ว่า โทนสีแดง สีชมพู และสีส้ม มีผลต่อประจุไฟฟ้าในร่างกาย และ DNA ของมนุษย์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกับหลักวิชาฮวงจุ้ยปัญจธาตุ ที่ผมได้นำเสนอมาตลอด ดังนั้นการที่ท่านจะใช้โทนสีของธาตุไฟ มาปรับวงจรพลังงานฮวงจุ้ยภายในบ้าน หรือการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ภายในบ้าน ท่านจะต้องสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยตัวท่านเองก็ส่งผลไปในทิศทางใด
เพราะพลังงานฮวงจุ้ย คือ พลังงานในเชิงวิทยาศาสตร์ ที่จะต้องทดลองแล้วเห็นผลที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน พลังงานฮวงจุ้ยไม่ใช่ความเชื่อตามที่ท่านถูกข้อมูลเชิงลบต่างๆ ครอบงำมาตลอด เมื่อท่านเข้าใจในหลักของพลังงานฮวงจุ้ย ท่านก็จะหลุดพ้นจากข้อมูลเชิงลบต่างๆ เหล่านี้ แล้วค้นพบวิธีการใช้พลังงานฮวงจุ้ยที่แท้จริง มาพลิกดวงชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดีได้ด้วยตัวท่านเองครับ