ความเชื่อที่น่าเป็นห่วง: บ้านหันทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นบ้านที่ฮวงจุ้ยดีที่สุด
บ้านหัน 3 ทิศนี้ดีจริงหรือไม่
ข้อมูลในศาสตร์ฮวงจุ้ยอีกเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงก็คือ บ้านที่มีพลังงานฮวงจุ้ยดีที่สุดคือ บ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะมีข้อมูลออกมาว่าบ้านหันไปในสามทิศนี้ลมจะพัดเข้าบ้านได้มากที่สุด จึงทำให้หลายๆ ท่านพยายามเลือกซื้อบ้านที่หันไปใน 3 ทิศนี้เป็นอันดับแรก
ฮวงจุ้ยและการเปลี่ยนแปลงของยุคพลังงาน
ในความเป็นจริงพลังงานฮวงจุ้ยได้มียุคของพลังงานที่มีความเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงกาลเวลา โดยพลังงานฮวงจุ้ยประมาณ 20 ปีจะมีการเปลี่ยนยุค 1 ครั้ง และในตอนนี้พลังงานฮวงจุ้ยได้เปลี่ยนเข้าสู่ยุค 9 ตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นมา ซึ่งถ้าท่านฝึกสังเกตตามที่ผมได้สอนไว้ ท่านก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ที่ผมเป็นห่วงก็เพราะว่า ยังมีหลายๆ ท่านที่มีความเชื่อผิดๆ ว่า บ้านหันทิศนี้จะส่งผลดี บ้านหันทิศนี้จะส่งผลร้าย ซึ่งในแต่ละทิศจะมีพลังงานที่แตกต่างกันอยู่ทั้งหมด 45 องศา ถ้าท่านฝึกสังเกตท่านก็จะทราบได้เองว่า ทำไมบ้านที่หันไปในทิศเดียวกัน แต่มีองศาที่แตกต่างกันจึงส่งผลไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งร้านค้าหรือธุรกิจต่างๆ ที่หันไปในทิศเดียวกัน แต่อยู่คนละองศาก็จะส่งผลที่แตกต่างกันต่อธุรกิจ
ดังนั้นความเชื่อที่ว่า บ้านหันทิศนี้แล้วจะส่งผลดี หรือบ้านหันทิศนี้แล้วจะส่งผลร้าย เป็นสิ่งที่ท่านควรจะเลิกท่องจำก็เพราะว่า ในแต่ละทิศจะมีพลังงานที่แตกต่างกันอยู่ถึง 45 องศาที่ท่านต้องฝึกสังเกต
และที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้น จากที่ซินแสบางท่านชอบให้ข้อมูลออกมาว่า บ้านหันไปทางทิศใต้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นบ้านที่ฮวงจุ้ยดีที่สุดเพราะเป็นบ้านที่เปิดรับลมได้มากที่สุดตลอดปี แต่ในฮวงจุ้ยยุค 9 บ้านที่หันไปในทั้ง 3 ทิศนี้ จะมีองศาการไหลเข้าของพลังงานในแต่ละทิศที่ส่งผลที่ดีอยู่แค่ ทิศละ 15 องศาเท่านั้น
ซึ่งหมายความว่าบ้านที่หันไปใน 3 ทิศนี้ที่มีองศารวมทั้งหมด 135 องศา จะมีพลังงานที่ส่งผลดีอยู่ทั้งหมด 45 องศา และพลังงานที่ส่งผลร้ายอยู่ทั้งหมด 90 องศา ที่จะส่งผลต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบประปา ของใช้ต่างๆ สุขภาพของสัตว์เลี้ยง ที่ท่านต้องไปฝึกสังเกตตามที่ผมเคยสอนไว้
สำหรับบ้านที่หันไปใน 3 ทิศนี้ ถ้าท่านสงสัยว่าเป็นบ้านที่หันไปรับพลังงานที่ส่งผลดี หรือรับพลังงานที่ส่งผลร้าย วิธีสังเกตง่ายๆ ก็คือ ถ้าตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นมา เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบประปา ของใช้ภายในบ้าน หรือสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยอยู่เป็นประจำ นั่นแสดงว่าบ้านของท่านเปิดรับพลังงานที่ส่งผลร้ายเข้ามาประจุอยู่ภายในส่วนกลางของบ้านท่าน แต่ท่านต้องแยกให้ออกด้วยครับว่า ถึงบ้านท่านจะหันไปในทางทิศนั้น แต่ถ้าท่านเปิดประตูหรือหน้าต่างรับลมเข้าส่วนกลางของตัวบ้านจากทิศอื่น ก็จะต้องสังเกตว่าพลังงานที่ไหลเข้าจากทิศที่เปิดประตูหรือหน้าต่างรับลมอยู่เสมอ เป็นพลังงานจากทิศใด
เพราะพลังงานฮวงจุ้ยไม่ได้สนใจว่า บ้านหันไปทางทิศไหน แต่พลังงานฮวงจุ้ยจะส่งผลก็ต่อเมื่อ ท่านเปิดประตูหรือหน้าต่างรับพลังงานจากทิศนั้นเข้ามาบรรจุอยู่ภายในบ้านของท่าน เป็นสิ่งที่ท่านต้องย้อนไปสังเกตด้วยตนเองว่าพฤติกรรมปกติในทุกวันนี้ ท่านเปิดประตูหรือหน้าต่าง รับลมเข้าบ้านของท่านจากทิศใดมากที่สุด แล้วส่งผลไปในลักษณะใด ถ้าส่งผลดีก็เปิดรับพลังงานอยู่เป็นประจำ แต่ถ้าส่งผลร้ายก็ให้เปิดรับพลังงานในฝั่งตรงข้าม
ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า มีหลายๆ ท่านมักจะท่องจำอยู่เสมอว่า บ้านหันไปทางทิศนี้แล้วจะส่งผลที่ดี หรือจะต้องเลือกซื้อบ้านที่หันไปทางทิศที่ส่งเสริมดวงชะตาปีเกิด ซึ่งการใช้ทิศมาเป็นเกณฑ์ตัดสินว่าบ้านหลังนี้ส่งผลดีหรือร้ายอย่างไร ไม่สามารถนำมาใช้ได้ เพราะในแต่ละทิศมีองศาการไหลเข้าของพลังงานที่แตกต่างกัน
ผมสอนอยู่เสมอว่า พลังงานฮวงจุ้ยไม่ใช่ความเชื่อ พลังงานฮวงจุ้ยจะต้องเป็นสิ่งที่ท่านสามารถนำมาทดลอง ปรับเปลี่ยน แล้วสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เชื่อตามที่เขาบอกว่า ไม่ใช่เชื่อตามที่ซินแสสั่งได้ทำ ให้ทดลองทำด้วยตนเองจนกว่าจะหาวิธีการที่ทำให้บ้านของท่านเป็นบ้านที่มีพลังงานฮวงจุ้ยที่ส่งผลดีต่อทุกๆ คนภายในบ้าน และจากนั้นให้เชื่อตัวเองดีที่สุดครับ
บทสรุป
ความเชื่อที่ว่าบ้านหันไปทางทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นบ้านที่ฮวงจุ้ยดีที่สุด อาจไม่เป็นจริงเสมอไป โดยเฉพาะในยุค 9 ที่พลังงานมีการเปลี่ยนแปลง คุณควรสังเกตและทดลองปรับฮวงจุ้ยด้วยตัวเอง แทนที่จะยึดติดกับคำบอกเล่า ความรู้ที่ถูกต้องและการลงมือทำจะช่วยให้คุณสร้างบ้านที่มีพลังงานดีและส่งเสริมความสุขให้ทุกคนในครอบครัวได้อย่างแท้จริง
