อย่าปล่อยให้คำว่า ” บ้านย้อนทรัพย์ “ทำให้ต้องทุบบ้าน รื้อบ้าน แต่ไม่ช่วยให้ การเงินดีขึ้น
คำว่า ” บ้านย้อนทรัพย์ ” จะเป็นอีกประโยคหนึ่งที่ทำให้หลายๆ ท่านเกิดความวิตกกังวลจนต้องจ้างช่างมา ทุบบ้าน รื้อบ้าน ปรับโครงสร้างตัวอาคารเพื่อให้ถูกหลักฮวงจุ้ย เพราะเกรงว่าโครงสร้างบ้านของท่านจะผิดหลักฮวงจุ้ยแล้วทำให้การเงินที่จะไหลเข้ามาภายในตัวบ้าน ไหลย้อนออกไปด้านนอกจนทำให้เกิดปัญหาในเรื่องการเงิน
ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นเพียงเพราะว่าความเข้าใจผิดในเรื่องการไหลเข้าของพลังงานฮวงจุ้ยที่ถูกนำเสนอออกมาว่า พลังงานฮวงจุ้ย หรือการเงินจะไหลเข้ามาภายในบ้านเหมือนดั่งสายน้ำ ไหลจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำตามที่ซินแสบางท่านชอบนำเสนอข้อมูลเชิงลบในลักษณะนี้ และเพื่อให้เกิดความเชื่อ ซินแสท่านนั้นจึงใช้คำว่า ” บ้านย้อนทรัพย์ “มาสร้างให้เกิดความกลัวเกี่ยวกับโครงสร้างภายในตัวบ้าน เหมือนดังการใช้คำว่า “ธนูลม” มาสร้างให้เกิดความกลัวในชัยภูมิที่อยู่นอกตัวบ้าน
ซึ่งผมพยายามสอนอยู่เสมอว่า ก่อนที่จะเกิดความกลัวหรือเกิดความวิตกกังวลในข้อมูลเชิงลบใดๆ ก็แล้วแต่ ท่านจะต้องค้นคว้าและวิเคราะห์ในข้อมูลต่างๆ ด้วยหลักเกณฑ์และผลว่า มีความเป็นไปได้ตามข้อมูลเชิงลบที่ได้ยินมาหรือไม่ ดังนั้นเรามาลองวิเคราะห์ในข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง บ้านย้อนทรัพย์ ในแต่ละรูปแบบเพื่อทำความเข้าใจแล้วจะได้ไม่เกิดความวิตกกังวล
1. บ้านที่มีธรณีประตูหน้าบ้านสูงเกิน 5 เซนติเมตร หรือบ้านที่ก่อผนังปูนขึ้นมาบริเวณหน้าบ้านเพื่อป้องกันน้ำท่วม
สำหรับในเรื่องนี้ถ้าหากท่านคิดว่าการเงินไหลเข้ามาภายในบ้านเหมือนดั่งสายน้ำ ไหลจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำ คำถามคือ การเงินจะไหลขึ้นบันไดหน้าบ้าน ไหลผ่านชานพักเข้ามาภายในประตูบ้านได้อย่างไร แล้วทำไมจะต้องเป็นธรณีประตูสูงแค่ 5 เซนติเมตร การเงินถึงจะไหลเข้าไปแล้วไม่ย้อนออกมา ดังนั้นบ้านของท่านถ้าธรณีประตูจะมีหรือไม่มีก็ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ไม่จำเป็นจะต้องไปทุบไปรื้อเพื่อปรับโครงสร้างใดๆ ครับ
2. ประตูหน้าบ้านจะต้องเป็นบ้านผลักเข้าไปภายในบ้านเท่านั้น เพื่อจะดันให้ลมและการเงินไหลเข้าไปภายในบ้าน แต่ถ้าประตูเป็นบานผลักออกมาจะกลายเป็นดันให้การเงินไหลออกมาด้านนอก
สำหรับในเรื่องนี้ ซินแสบางท่าสที่นำเสนอในเรื่องประตูบานผลักเข้า น่าจะยังไม่เข้าใจในเรื่องของแรงดันภายในตัวบ้าน ให้ท่านลองคิดดูว่า ถ้าหากบ้านของท่านที่เหมือนกล่องใบหนึ่งที่มีอากาศบรรจุอยู่ภายใน เมื่อมีการดันประตู หรือมีแรงดันเพิ่มเข้าไปภายในตัวบ้าน ด้วยประตูบานผลักเข้า แรงดันปกติที่อยู่ภายในบ้านเมื่อถูกแรงดันจากภายนอกดันเข้ามา ลมหรืออากาศที่อยู่ภายในบ้านก็จะต้องถูกดันสวนกลับไปในทางประตูหน้าบ้านที่เปิดผลักเข้ามา ส่วนประตูบานผลักออกทุกครั้งเมื่อเปิดประตูดึงออกมา ก็จะเกิดแรงดูดอากาศที่อยู่ภายนอกตัวอาคารดึงกระแสลมไหลเข้าไปภายในบ้าน เหมือนดั่งท่านดึงสลิงเข็มฉีดยาแล้วเกิดแรงดูด
ดังนั้นท่านไม่จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนบานประตูหน้าบ้านให้เป็นบานผลักเข้า เพราะเกรงว่า ประตูบานผลักออกที่ใช้อยู่ปัจจุบัน จะทำให้การเงินไหลออกมาแล้วกลายเป็น บ้านย้อนทรัพย์
3. ห้ามมีประตูเดินเข้าออกบริเวณโรงจอดรถ เพราะถ้ามีประตูหน้าบ้าน 2 บาน บ้านหลังนั้นจะกลายเป็นบ้านย้อนทรัพย์ทันที จะต้อง ปรับประตูโรงจอดรถโดยก่อปูนขึ้นมาให้กลายเป็นหน้าต่าง เพื่อแก้ไขในเรื่อง บ้านย้อนทรัพย์
สำหรับในเรื่องนี้จะทำให้หลายๆ ท่านที่มีประตูโรงจอดรถตามที่โครงการหมู่บ้านได้ออกแบบไว้เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน แล้วเกิดความวิตกกังวลจนต้องแก้ไขประตูโรงจอดรถให้กลายเป็นบานหน้าต่าง ซึ่งถ้าหากท่านเข้าใจในเรื่องของหลักพลังงานว่า พลังงานฮวงจุ้ย คือ ประจุไฟฟ้าและความชื้นสัมพัทธ์ ที่อยู่ในอากาศแล้วไหลเข้าไปภายในบ้านทางประตูและหน้าต่างทุกๆ บาน ซึ่งสิ่งที่ท่านต้องสังเกตดูว่า ประตูบ้านของท่านที่อยู่ด้านไหนเมื่อเปิดแล้วส่งผลดีหรือร้ายอย่างไร ถ้าส่งผลร้ายก็ให้ปิดประตูทุกครั้งเอาไว้หลังใช้งาน พลังงานร้ายก็ไม่สามารถไหลเข้าไปภายในบ้านของท่านจะประตูหรือหน้าต่างที่อยู่ด้านนั้นตามที่ผมเคยสอนให้สังเกต
ดังนั้นประตูโรงจอดรถไม่จำเป็นต้องรื้อออก ถ้าหากท่านสังเกตดูแล้วว่าลมที่เข้าทางประตูโรงจอดรถเป็นลมที่ส่งผลร้าย ท่านก็เพียงแค่ไม่เปิดประตูโรงจอดรถทิ้งไว้ตลอดเวลา โดยปิดไว้ทุกครั้งหลังจากใช้งานก็ไม่ได้ส่งผลร้ายใดๆ ครับ
4. ห้ามมีธรณีหรือเนินปูนกลางบ้าน รวมทั้งธรณีใต้ตู้ห้องครัว แม้กระทั่งมีคิ้วกระเบื้องที่สูงเกินมาเพียงแค่ 1 มิลลิเมตรก็จะนับเป็นภูเขากลางบ้าน ตามที่ซินแสบางท่านชอบนำเสนอว่าจะทำให้กลายเป็นภูเขากลางบ้าน จนทำให้บ้านของท่านกลายเป็น บ้านย้อนทรัพย์
สำหรับในเรื่องนี้ก็จะเป็นกรณีเดียวกับการที่ท่านมองว่า พลังงานฮวงจุ้ยหรือการเงินไหลเข้ามาภายในบ้านเหมือนดั่งสายน้ำ แต่พลังงานฮวงจุ้ยไหลเข้าภายในบ้านของท่านผ่านทางประตูหรือหน้าต่างทุกๆ บาน ดังนั้นท่านไม่จำเป็นจะต้องไปทุบธรณีประตูกลางบ้าน ไม่ต้องไปปรับโครงสร้างบานประตูที่กันระหว่างพื้นที่ส่วนกลางกับห้องครัว โดยทำเป็นประตูบานแขวน ไม่ต้องไปทุบธรณีหรือเนินปูนที่อยู่ใต้อ่างล้างจาน หรืออยู่ใต้ตู้ห้องครัว เพราะไม่ได้ทำให้การเงินของท่านไหลย้อนออกไปด้านนอก เพราะเป็นสิ่งที่ทำไปก็ไม่ได้ช่วยให้การเงินของท่านดีขึ้น
5. บ้านที่ทำทางเดิน 107 เซนติเมตร ก็อยากจะเร่งกระแสการเงินให้ไหลเข้าบ้าน โดยทำผนังกั้นขึ้นมาแต่อยู่ในระยะห่างจากประตูหน้าบ้านต่ำกว่า 4 เมตร จะกลายเป็น บ้านย้อนทรัพย์ ทันที
สำหรับในเรื่องทางเดิน 107 เซนติเมตร ผมได้เคยทำบทความและคลิปออกมาอธิบายแล้วว่าไม่ได้ช่วยเร่งกระแสการเงินใดๆ ต่อให้ประตูหน้าบ้านของท่านตรงกับประตูหลังบ้าน ก็ไม่ได้ส่งผลให้การเงินไหลเข้ามาภายในบ้านแล้วไหลออกไปจนไม่เหลือเงินเก็บ เพราะสิ่งที่ท่านต้องสังเกตก็คือ ลม ที่พัดเข้ามาทางประตูหน้าบ้าน หรือประตูหลังบ้าน ลม ด้านไหนส่งผลดีหรือร้ายต่อพลังงานฮวงจุ้ยภายในบ้านของท่าน ถ้าด้านไหนเป็นพลังงานที่ส่งผลร้ายก็ให้ปิด ประตูหรือหน้าต่างในด้านนั้นไว้เสมอหลังจากใช้งาน
แต่การที่ท่านไปทำช่องทางเดิน 107 เซนติเมตร เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้กระแสการเงินไหลเข้ามาภายในบ้านของท่านแรงขึ้น แต่ท่านกลับไม่ทราบว่าสูตรที่ใช้ในการคำนวณเรื่องการไหลของลม แล้วตัวเลข 107 เซนติเมตร ซินแสท่านนั้นไปเอาสูตรคำนวณมาจากไหน ดังนั้นการจะออกแบบให้มีช่องทางเดิน จะทำหรือไม่ทำก็ได้เพราะไม่ได้มีผลในการเร่งการเงินเข้าบ้าน และไม่ได้ป้องกันเงินที่ไหลเข้ามาแล้วไหลออกทางประตูหลังบ้าน แต่ถ้าจะทำไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงตัวเลขใดๆ สามารถออกแบบได้ตามความสวยงาม และหลักการใช้งานของแต่ละบ้านที่ไม่เหมือนกันครับ
6. บ้านหน้ากว้างหลังแคบ จะกลายเป็น บ้านย้อนทรัพย์ ทันที
สำหรับในเรื่องนี้ถ้าหากท่านเข้าใจในเรื่องของพลังงานฮวงจุ้ยที่ไหนเข้ามาภายในบ้านของท่านว่า เป็นประจุไฟฟ้าและความชื้นสัมพัทธ์ ที่ไหลเข้ามาภายในกล่องประจุพลังงานที่แยกเป็นส่วนๆ อยู่ภายในตัวบ้าน ไหลผ่านบานประตูและหน้าต่างทุกๆ บานที่อยู่ในผนังทุกด้านภายในบ้านของท่าน
ดังนั้น ถ้าหากบ้านของท่านมีลักษณะ บ้านหน้ากว้างหลังแคบ อากาศที่ไหลเข้ามาภายในบ้านของท่าน จะไหลผ่านเข้าประตูและหน้าต่างทุกๆ บาน ไม่ได้ไหลเข้าทางหน้าบ้านเพียงทิศทางเดียว แล้วพลังงานที่ไหลเข้ามาจะแยกเป็นส่วนๆ ภายในตัวบ้าน ดังนั้น บ้านหน้ากว้างหลังแคบ จึงไม่ได้มีผลทำให้บ้านหลังนั้นเป็นบ้านย้อนทรัพย์ครับ
7. บ้านที่ต่อเติมห้องครัวแล้วเปิดประตูหลังบ้านออกไปด้านหน้าบ้าน จะกลายเป็น บ้านย้อนทรัพย์ ทันที
สำหรับในเรื่องนี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับหลายๆ ท่านที่ได้ต่อเติมห้องครัวหลังบ้าน และได้ออกแบบให้มีประตูห้องครัวที่สามารถขนของเดินผ่านทางข้างบ้านแล้วเข้าห้องครัวได้โดยตรงเพื่อความสะดวก แต่สุดท้ายจะต้องมารื้อประตูห้องครัวทิ้งเพียงเพราะคำว่า บ้านย้อนทรัพย์
สำหรับห้องครัวที่ต่อเติมบริเวณหลังบ้าน สิ่งที่ท่านต้องสังเกตอยู่เรื่องเดียวก็คือ บานประตูหรือหน้าต่างจากผนังด้านใดในห้องครัว เมื่อเปิดรับลมเข้ามาแล้วส่งผลให้ เครื่องครัว หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องครัวเสียอยู่เป็นประจำ นั่นแสดงว่าประตูหรือหน้าต่างด้านนั้นเปิดรับพลังงานร้ายเข้ามาภายในห้องครัว แต่ก็จะส่งผลร้ายเพียงแค่อุปกรณ์เครื่องครัวเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลร้ายใดๆ ภายในบ้านของท่าน เพราะห้องครัวที่ต่อเติมออกมาจะเป็นกล่องประจุพลังงานที่แยกส่วนออกมาจากพื้นที่ภายในบ้าน
ท่าน จะต้องสังเกตและปรับเปลี่ยนทางเข้าของพลังงาน โดยไม่จำเป็นจะต้องคำนึงว่า ประตูห้องครัวห้ามหันไปทางหน้าบ้าน เมื่อต่อเติมห้องครัวออกมา แต่ให้สังเกตว่าลมเข้าทางประตูหรือหน้าต่างด้านไหนแล้วส่งผลให้อุปกรณ์เครื่องครัวเสียอยู่เป็นประจำ ท่านก็ปิดประตูหรือหน้าต่างด้านนั้นหลังจากใช้งานไว้เสมอ ครับ
ข้อสรุป: อย่าหลงเชื่อคำว่า “บ้านย้อนทรัพย์” อย่างไร้เหตุผล
สำหรับเรื่อง ” บ้านย้อนทรัพย์ ” ในลักษณะต่างๆ ที่ผมได้นำมาวิเคราะห์เพื่อคลายความวิตกกังวลของหลายๆ ท่าน เป็นเพียงการใช้คำว่า บ้านย้อนทรัพย์ ของซินแสบางท่านที่นำมาใช้สร้างข้อมูลเชิงลบให้เกิดความเชื่อ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน เพื่อให้เชิญมาตรวจสอบฮวงจุ้ย และเมื่อเชิญมาตรวจสอบฮวงจุ้ย ท่านก็จะต้องซื้ออุปกรณ์ฮวงจุ้ยที่ซินแสท่านนั้นเตรียมมาขายท่าน อาจจะต้องซื้อสิงห์คู่ราคาหลักแสนถึงล้าน จนอาจจะลามไปถึงต้องทำแซกี หรือสุสานคนเป็นในราคาหลายล้าน เพียงเพราะคำว่า ” บ้านย้อนทรัพย์ ” ที่ซินแสบางท่านนำมาใช้ในการหาผลประโยชน์จากผู้ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องฮวงจุ้ย ครับ