ลม ที่พัดเข้าบ้านจากอากาศทิศตะวันออก จะส่งผลอย่างไรไปอีก 10 กว่าปี
ทิศตะวันออก เป็นทิศที่คนไทยส่วนมากจะนิยมสร้างบ้านไปในทางทิศนี้ เพราะมีความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณว่า ทิศตะวันออกเป็นทิศมงคล จะทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ ปัญหาต่างๆ จะมีทางออกอยู่เสมอ แต่ในเรื่องของพลังงานฮวงจุ้ย ที่หลายๆ ท่านกำลังศึกษาและวิธีการปรับพลังงานฮวงจุ้ยบ้านของท่านให้ส่งผลที่ดีขึ้น แต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบเลยว่า พลังงานฮวงจุ้ย คือ อะไร เพราะโดยส่วนมากก็จะเข้าใจตามคำที่ท่องจำกันมาว่า ฮวง คือ ลม จุ้ย คือ น้ำ และจะต้องเลือกชัยภูมิที่มีลักษณะ บ้านหน้าน้ำหลังเขา จึงคิดว่าบ้านที่มีลมพัดเข้ามามากที่สุดจะเป็นบ้านที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุด เช่น บ้านที่หันไปทางทิศใต้ จะเป็นตัวเลือกแรกในการเลือกซื้อบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ย
และก็จะต้องออกแบบให้หน้าบ้านมีตำแหน่งน้ำ หรือตั้งน้ำพุไว้บริเวณหน้าบ้าน เพื่อให้ตรงตามทฤษฎี บ้านหน้าน้ำหลังเขา แต่สุดท้ายกลับไม่ส่งผลที่ดีขึ้นเพราะว่า ท่านก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าพลังงานฮวงจุ้ยคืออะไร
เพราะการที่ข้อมูลในศาสตร์ฮวงจุ้ยถูกนำไปยึดโยงกับเรื่องความเชื่อเป็นส่วนมาก แล้วถูกนำเสนอด้วยความกลัว ถ้าไม่ทำตามจะส่งผลร้าย และนำเสนอด้วยความร่ำรวย เพื่อให้เกิดความเชื่อในศาสตร์ที่นำเสนอออกมา และศาสตร์ต่างๆ เหล่านี้ก็จะครอบงำในความคิดของหลายๆ ท่านมาตลอด
ผมจึงได้ ค้นคว้า ทดลอง และพิสูจน์ด้วยตนเองว่า พลังงานฮวงจุ้ยที่แท้จริงก็คือ ประจุไฟฟ้า และความชื้นสัมพัทธ์ที่อยู่ภายในอากาศ ที่เกิดการไหลเข้าตัวอาคาร ไหลเข้าห้องนอน แล้วทำมุมกับแกนองศาแม่เหล็กโลก ที่มีค่าพลังงานแตกต่างกันอยู่ถึงทั้งหมด 360 องศา และมีค่าพลังงานที่แตกต่างกันในทิศละ 45 องศา
เพราะจะเป็นคำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์ที่อธิบายเหตุผลทั้งหมดว่า ทำไมผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรือสำนักงานที่อยู่ในตัวอาคารสูงๆ จึงมีพลังงานฮวงจุ้ยขึ้นมาหล่อเลี้ยง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีพลังงานฮวงจุ้ยไหลเข้ามาทางพื้นดิน จะต้องปรับระดับพื้นให้ต่ำลงไป แล้วให้ไปกักเก็บทรัพย์อยู่ภายในห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งในตอนนี้หลายๆ ท่านคงมองภาพออกแล้วว่า ศาสตร์ที่เน้นในการทุบห้องน้ำสุดท้ายใช้ไม่ได้ผล เพราะพลังงานฮวงจุ้ยที่แท้จริงก็คือ ประจุไฟฟ้าและความชื้นสัมพัทธ์ที่อยู่ภายในอากาศ ที่ไหลเข้าสู่ตัวอาคารทาง ประตูและหน้าต่าง ต่อให้คอนโดมิเนียมของท่านจะอยู่ชั้นสูงขนาดไหนก็แล้วแต่ พลังงานฮวงจุ้ยก็คือ อากาศที่ไหลเข้าไปภายในยูนิตของท่าน
ซึ่งผมได้เคยให้ข้อมูลแล้วทำบทความสอนท่านมาตั้งแต่ต้นปี 2566 แล้วว่า บ้านที่หันไปทางทิศตะวันออก เป็นบ้านที่มีพลังงานที่ส่งผลดีไหลเข้ามา 2 ใน 3 ของทิศ และมีพลังงานที่ส่งผลร้ายไหลเข้ามา 1 ใน 3 ของทิศ แต่ก็ยังมีหลายๆ ท่านไม่เข้าใจว่า ทำไมบ้านที่หันไปทิศตะวันออกของท่านกลับส่งผลไม่ดีขึ้น
นั่นเป็นเพราะว่า ท่านยังไม่เข้าใจในเรื่องของพลังงานอย่างถ่องแท้ ต่อให้บ้านของท่านหันไปทางทิศตะวันออก แต่ถ้าท่านเปิดประตูหรือหน้าต่างรับลมจากทิศอื่น ทางไหลเข้าของพลังงานก็จะส่งผลจากประตูหรือหน้าต่างที่เปิดรับลมจากทิศนั้น ไม่ใช่เพียงแค่บ้านหันไปทางทิศตะวันออกแล้วจะส่งผลไปในทิศทางเดียวกับบ้านที่หันไป
แม้กระทั่งบ้านที่หันไปทางทิศตะวันออก ที่อยู่ในองศาที่ดี แต่บางท่านเปิดประตูหรือหน้าต่างห้องนอนรับลมจากในทิศทางอื่น ก็จะได้พลังงานจากทิศทางอื่นที่ไม่ใช่ทิศเดียวกับที่บ้านของท่านหันไป ผมจึงพยายามเปลี่ยนความคิดของท่านใหม่ว่า ลม ที่พัดเข้ามาภายในบ้านของท่านจากทิศตะวันออก หรืออากาศที่ไหลเข้าไปภายในห้องนอนของท่านจากทิศตะวันออก จะมีพลังงานที่ส่งผลที่ดีอยู่ 30 องศา และพลังงานที่ส่งผลร้ายอยู่ 15 องศา ที่ท่านจะต้องไปสังเกตด้วยตัวท่านเอง
วิธีสังเกตพลังงานลมในบ้าน และปรับเปลี่ยนพลังงานฮวงจุ้ย
อันดับแรกท่านจะต้องแบ่งบ้านของท่านเป็นส่วนๆ โดยส่วนแรกก็คือ บ้านทั้งหลัง หรือที่ผมเรียกว่า กล่องประจุพลังงานใบใหญ่ ซึ่งท่านจะต้องสังเกตดูว่า บ้านของท่านที่หันไปทางทิศตะวันออก พฤติกรรมโดยปกติของบ้านท่านได้เปิดรับลมเข้าจากทิศทางใดให้อากาศเข้ามาหล่อเลี้ยงพื้นที่ส่วนกลางภายในบ้าน ที่มีทั้งห้องรับแขก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร หรือห้องอื่นๆ ที่ไม่ใช่ห้องนอน
สิ่งที่ท่านจะต้องย้อนไปสังเกตก็คือ ลม ที่พัดเข้าบ้านของท่านสู่พื้นที่ส่วนกลางจากทิศตะวันออก ตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นมา พลังงานได้เปลี่ยนเข้าสู่ฮวงจุ้ยยุค 9 ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบประปา ของใช้ภายในบ้าน หรือมีเรื่องให้เสียเงินประจำ แม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยอยู่เสมอ นั่นแสดงว่า ประตู หรือหน้าต่าง ที่ท่านเปิดรับลมจากทิศตะวันออก ได้เปิดรับพลังงานที่ส่งผลร้ายเข้ามาภายในพื้นที่ส่วนกลางของบ้านท่าน
เมื่อท่านสังเกตดีแล้วว่า ประตูหรือหน้าต่างที่เปิดรับลมจากทิศตะวันออกแล้วส่งผลร้ายต่อบ้านของท่าน วิธีการแก้ไขก็คือ ท่านจะต้องปิด ประตูหรือหน้าต่างทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อไม่ให้ลมจากทิศตะวันออกเข้ามาภายในบ้านของท่าน แล้วจะต้องปรับเปลี่ยนไปเปิด ประตูหรือหน้าต่างรับลมจากทิศทางอื่น เพื่อนำพาพลังงานที่ส่งผลดีเข้ามาหล่อเลี้ยงภายในพื้นที่ส่วนกลาง
ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวที่มีพลังงานสามารถเข้าได้ทั้งหมด 4 ทิศทาง เมื่อท่านเปิดประตูหรือหน้าต่างทางทิศตะวันออก แล้วส่งผลร้าย ทิศที่ส่งผลร้ายอีกหนึ่งทริป ก็จะเป็นทิศเหนือ ส่วนทิศที่ส่งผลที่ดีต่อบ้านท่านก็จะเป็น ทิศตะวันตก และทิศใต้
ในทางกลับกันถ้าท่านเปิดประตูหรือหน้าต่างรับลมจากทิศตะวันออกแล้วส่งผลที่ดีขึ้น ทิศที่ส่งผลที่ดีอีกหนึ่งทิศก็จะเป็นทิศเหนือ ส่วนทิศที่มีพลังงานร้ายไหลเข้ามาก็จะเป็น ทิศตะวันตกและทิศใต้ เป็นสิ่งที่ท่านต้องไปสังเกตด้วยตัวท่านเอง ห้ามท่องจำโดยเด็ดขาด
สำหรับบ้านที่มีทางเข้าออกของพลังงานเพียงแค่ 2 ทางเช่น ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ถ้าบ้านของท่านเปิดรับลมทางทิศตะวันออกแล้วส่งผลร้าย ที่ที่ส่งผลดีก็จะเป็นทิศตะวันตกที่อยู่ตรงข้ามกับหน้าบ้าน โดยท่านต้องพยายามปิดประตูหรือหน้าต่างหน้าบ้านทุกครั้งหลังใช้งาน แล้วเปิดรับลมจากทิศหลังบ้านเพื่อนำพาพลังงานที่ส่งผลดีเข้ามาหล่อเลี้ยงภายในพื้นที่ส่วนกลางของตัวบ้าน
แต่ถ้าบ้านของท่านมีทางเข้าออกของพลังงานเพียงทางเดียว เช่น ทาวน์เฮ้าส์ที่ต่อเติมครัวหลังบ้านจนปิดทึบ ท่านก็จะต้องใช้ บานหน้าต่าง ที่เป็นบานสวิงหรือบานผลักออก เพื่อเปิดรับลมในองศาที่แตกต่างจากองศาตัวอาคาร โดยท่านจะต้องค่อยๆ ขยับการเปิดหน้าต่างทีละองศา แต่ถ้าหากบ้านของท่านเป็นหน้าต่างบานเลื่อน หรือประตูบานเลื่อน การที่มีพลังงานเข้าออกทิศทางเดียว จะไม่สามารถปรับเปลี่ยนพลังงานใดๆ ได้เลย ท่านก็จำเป็นจะต้องปรับ ประตู หรือหน้าต่างของท่านที่สามารถผลักออกไปเปลี่ยนองศาการไหลเข้าของพลังงาน
เพราะ บานหน้าต่าง หรือบานประตูที่ผลักออกไป จะเป็นตัวบังคับอากาศที่มีประจุไฟฟ้าและความชื้นสัมพัทธ์ ให้ไหลทำมุมกับแกนองศาแม่เหล็กโลกตามองศาของบานหน้าต่างที่ผลักออกไป เพื่อเปลี่ยนค่าพลังงานจากเดิมที่เป็นค่าเดียวกับองศาตัวอาคาร ให้เปลี่ยนแปลงไปในองศาอื่นๆ โดยจะต้องทดลองเปิดทีละองศาจนกว่าจะค้นพบองศาที่เปิดแล้วส่งผลดีที่สุด ซึ่งในเรื่องนี้ท่านอย่าเพิ่วคิดว่าทำไม่ได้ เพราะมีลูกศิษย์ผมที่เคยทดลองปรับองศาหน้าต่างด้วยตนเอง จนสุดท้ายรอดพ้นจากวิกฤตการเงิน ถ้าเขาทำได้ท่านก็ต้องทำได้เช่นกัน
กล่องประจุพลังงานอันดับต่อไปที่สำคัญที่สุดก็คือ ห้องนอนแต่ละห้องที่อยู่ภายในบ้านของท่าน ที่ท่านจะต้องไปสังเกตด้วยตัวท่านเองว่า ในห้องนอนแต่ละห้อง จากพฤติกรรมปกติ ห้องนอนไหนที่มีปัญหา ผู้อยู่อาศัยเจ็บป่วย มีปัญหาเรื่องการเงิน ความสัมพันธ์ในครอบครัวเริ่มมีปัญหา มีปัญหาในหน้าที่การงาน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ส่งผลร้ายใดๆ
ท่านก็จะต้องสังเกตดูว่า ห้องนอนนั้นเปิดรับพลังงานจากทิศใด ถ้าห้องนอนนั้นเปิดประตูหรือหน้าต่างให้อากาศจากทางทิศตะวันออกไหลเข้าไปประจุภายในห้องนอนก่อนนอนทุกคืนแล้วส่งผลร้าย ท่านก็จะต้องปรับเปลี่ยนไปเปิดหน้าต่าง ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตก หรือทิศใต้ แล้วปิดประตูหรือหน้าต่างจากทิศตะวันออกไว้ เพื่อให้พลังงานที่ส่งผลดีไหลเข้ามาประจุไว้ภายในห้องนอนนั้น เพื่อเปลี่ยนพลังงานร้ายให้กลายเป็นดี
หลังจากที่ปรับเปลี่ยนทางเข้าของพลังงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านก็จะต้องนอนหันศีรษะไปรับพลังงานที่ส่งผลดี โดยสมมุติว่าถ้าหากท่านเปลี่ยนไปเปิดหน้าต่างทางด้านทิศตะวันตกแล้วเป็นพลังงานที่ส่งผลดี ท่านก็จะต้องนอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตกโดยไม่ต้องสนใจความเชื่อต่างๆ ที่เคยได้รับรู้มา เพราะก่อนหน้านี้ท่านทำตามความเชื่อมาโดยตลอดแต่ยังไม่ได้ส่งผลที่ดีขึ้น ท่านก็จะต้องทดลองในสิ่งที่ไม่เคยทำแล้วสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นครับ
จากนั้นท่านจะต้องปรับวงจรพลังงานภายในโดยท่านจะต้องเข้าไปศึกษาในคลิปที่ผมได้ทำไว้ในเรื่อง “7 วิธีปรับพลังงานฮวงจุ้ยด้วยตนเอง” แล้วปรับเปลี่ยนพลังงานภายในตามคลิปนั้น
แต่ถ้าหากบ้านของท่านเปิดรับลมทางทิศตะวันออกแล้วส่งผลที่ดี ท่านก็จะต้องใช้ธาตุไม้มาส่งเสริมเพื่อให้ก่อเกิดพลังงานของธาตุไฟ ที่เป็นธาตุสำคัญประจำฮวงจุ้ยยุค 9 เพื่อส่งเสริม การงาน การเงิน และสุขภาพ โดยจะต้องแบ่งผนังด้านที่เป็นทิศตะวันออกครึ่งหนึ่ง แล้วนำ โมบายที่ทำจากไม้ไผ่ ริบบิ้นสีเขียว พรมสีเขียว และของตกแต่งบ้านที่ทำจากไม้ไปตั้งไว้ในบริเวณนั้น ทั้งผนังที่เป็นด้านพื้นที่ส่วนกลางของตัวบ้าน และผนังห้องนอนทุกๆ ห้องที่จะต้องนำธาตุไม้มาส่งเสริมให้เกิดธาตุไฟ แต่จะต้องไม่ใช้ชิ้นใหญ่เกินไปถ้าหากเป็นห้องนอน
เคล็ดลับส่งเสริมพลังงานดี
- หากลมจากทิศตะวันออกส่งผลดี ให้เสริมพลังงานด้วย ธาตุไม้ เช่น โมบายไม้ ริบบิ้นสีเขียว หรือของตกแต่งจากไม้ วางในจุดที่เหมาะสม
- หากลมจากทิศตะวันออกส่งผลร้าย ให้ปรับเปลี่ยนทางเข้าออกของพลังงาน โดยใช้หน้าต่างบานสวิงหรือผลักออก เพื่อควบคุมองศาของลมให้ทำมุมใหม่กับตัวอาคาร
สิ่งที่ผมนำเสนอมา คือ วิธีการเปลี่ยนทางเข้าของพลังงาน แล้วส่งเสริมให้เกิดพลังงานที่ส่งผลดีต่อตัวท่านและสมาชิกภายในครอบครัว ซึ่งท่านสามารถทดลองปรับเปลี่ยนได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นจะต้องเสียเงินสักบาท เพราะโดยส่วนมากจะคิดว่า พลังงานฮวงจุ้ยจะเปลี่ยนแปลงไปในทุกๆ ปี เพราะจะมีซินแสบางท่านออกมาให้ข้อมูลอยู่เสมอว่า ปีนี้ให้ทำอย่างไร ปีหน้าให้ใช้อะไรมาแก้เคล็ด ซึ่งเป็นเพียงหลักการตลาดที่จะขายของแก้เคล็ดที่ได้เตรียมไว้เท่านั้น ทั้งในเรื่อง ทิศดี ทิศร้ายประจำปี และเรื่องของปีชง ท่านจึงถูกข้อมูลเหล่านี้ครอบงำมาทุกๆ ปี
แต่พลังงานฮวงจุ้ยจะเปลี่ยน 1 ครั้งจะมีระยะเวลาไปอีก 10 กว่าปีจนกว่าจะเปลี่ยนพลังงานใหม่ การที่ซินแสจะจัดบ้านให้ท่าน 1 ครั้ง แล้วอีกเกือบ 20 ปีมาเจอกัน ซินแสก็คงจะไม่มีสิ่งที่สร้างรายได้ จึงจำเป็นจะต้องให้ข้อมูลในการจัดฮวงจุ้ยในทุกๆ ปี จะต้องฟังความเชื่อเพื่อขายของแก้เคล็ด หรือหนักกว่านั้นก็จะดูดวงแล้วแนะนำให้ท่านไปทำแซกีราคาหลายร้าน ซึ่งก็มีกรณีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า การที่เราเชื่อโดยไม่มีเหตุผลแล้วส่งผลร้ายอย่างไร
สำหรับ ลม ที่พัดเข้าทางทิศตะวันออก ถ้าเป็นพลังงานที่ส่งผลดีท่านก็จะต้องส่งเสริมพลังงานให้ดีขึ้นด้วยธาตุไม้ แต่ถ้าเป็นพลังงานที่ส่งผลร้าย ท่านก็แค่ปรับเปลี่ยนทางเข้าใหม่ของพลังงาน โดยท่านจะต้องสังเกตและปรับเปลี่ยนด้วยตนเอง แล้วท่านจะเข้าใจด้วยตัวท่านเองว่าพลังงานฮวงจุ้ยที่แท้จริงที่สามารถนำมาเปลี่ยนดวงชะตาที่ส่งผลร้ายให้กลายเป็นดีได้ คืออะไรครับ
ข้อควรระวัง
- อย่าตกเป็นเหยื่อความเชื่อที่เน้นการขายของแก้เคล็ด เช่น วัตถุมงคลหรือพิธีกรรมเฉพาะปี
- พลังงานฮวงจุ้ยไม่ได้เปลี่ยนแปลงทุกปี แต่จะเปลี่ยนครั้งใหญ่ทุก 10-20 ปี ดังนั้น การจัดฮวงจุ้ยในบ้าน 1 ครั้ง อาจส่งผลดีในระยะยาวโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงบ่อย