หมอดูขโมยดวง

หมอดูขโมยดวง ได้จริงมั้ย ทำไมถึงดูแม่นยำเหมือนดั่งตาเห็น

หมอดูขโมยดวง ได้จริงมั้ย ทำไมถึงดูดวงได้แม่นเหมือนดั่งตาเห็น

วันนี้ผมจะขอนำเสนอบทความนอกเรื่องฮวงจุ้ย แต่เกี่ยวข้องกับเรื่องการตรวจสอบดวงชะตา เพราะผมมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อหลายๆ ท่านที่กำลังสงสัย หรือสับสนในเรื่องการตรวจสอบดวงชะตา การขโมยดวง หรือแม้กระทั่งการพยากรณ์ที่แม่นยำเหมือนดั่งตาเห็นว่า สามารถทำได้จริงหรือไม่

เพราะผมเคยตกอยู่ในวังวนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็น 10 ปี ในสมัยที่เคยถูก คนนุ่งเหลือง ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง หลอกให้ผมดูหมอส่งสายบุญไปสร้างวัด รวมทั้งเคยเป็นผู้ประกอบพิธีเสริมดวง เสริมชะตา สวดถอนคุณไสย โดยเรียนรู้จากคนนุ่งเหลืองที่เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนั้น
จนผ่านไปเกือบ 10 ปี ผมเริ่มมีสติจึงได้เริ่มสังเกตเห็นว่า คนนุ่งเหลือง คนนั้นได้ทำผิดศีล 5 ทุกข้อ และได้หลอกผมโดยอ้างว่าเป็นการส่งสายบุญมาสร้างวัด แต่เป็นการหาผลประโยชน์จากผู้ที่เดือดร้อน จนผมตัดสินใจเดินออกมาจากวัดแห่งนั้น และหันหลังให้กับการดูดวงมาเกือบ 20 ปี แล้วเริ่มศึกษาในเรื่องฮวงจุ้ย และในหลักธรรมของพระพุทธองค์
หลังจากออกจากวัดมาผมได้ทราบจากพระที่เคยอยู่ในวันนั้นแล้วทนไม่ไหวในเรื่องนี้ได้ออกมาจากวัดก่อนหน้าผมว่า คนนุ่งเหลือง ที่เป็นเจ้าอาวาส ได้ใช้มนต์ดำ ใช้วิญญาณในการสะกดให้คนหลงใหลแล้วเข้ามาทำบุญที่วัดแบบขาดสติ
ย้อนกลับมาเรื่องหมอดูที่ทำนายทายทักแม่นยำดั่งตาเห็น มองเห็นกระทั่งว่าที่บ้านเป็นลักษณะใด มีองค์เทพแบบไหนตั้งอยู่บ้าง หรือเหตุการณ์ปัจจุบันว่าท่านเพิ่งไปพบเจอใครมา ญาติหรือคนรู้จักของท่านชื่ออะไร ถ้าถามว่าเรื่องนี้เป็นไปได้หรือไม่ ผมตอบได้เลยครับว่า เป็นไปได้ แต่จะเป็นวิชาที่ใช้วิญญาณ ใช้วิชาพรายกระซิบ หรือใช้กุมาร ในการสื่อให้เห็นภาพปัจจุบัน ได้ยินเสียง แต่ไม่สามารถเห็นภาพในอนาคตได้ ซึ่งนอกจากหมอดูแล้ว คนนุ่งเหลืองในสมัยนี้ก็ใช้หลักวิชานี้เช่นกัน เพื่อหลอกล่อให้คนเข้ามาทำบุญในวัด
เพราะคนในยุคสมัยนี้ บางท่านไม่ได้ต้องการหลักธรรมของพระพุทธองค์มาใช้ในการดำเนินชีวิต ถึงได้แสวงหาผู้วิเศษที่สามารถหยั่งรู้อนาคต โดยไม่สนใจหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ สาเหตุเพราะดวงชะตาที่กำลังตกต่ำ จึงได้จะพยายามหาหนทางที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น จึงต้องแสวงหาผู้วิเศษ ที่เป็นทั้งหมอดู หรือคนนุ่งเหลือง ที่สามารถทำนายทายทักดวงชะตาได้อย่างแม่นยำ สามารถมีจิตหยั่งรู้ในปัจจุบันที่เป็นของเรา
โดยไม่สนใจว่า คนนุ่งเหลืองผู้นั้น จะปฏิบัติตนอยู่ในคำสอนของพระพุทธองค์ จะเป็นพระสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหรือไม่ โดยจะใช้แค่คำว่า “กราบผ้าเหลือง” ขอแค่เป็นคนนุ่งผ้าเหลือง จะใบ้หวยใบเลขอะไร จะอวดอุตริในลักษณะไหน ก็จะ สาธุ กันหมด
การที่จะมีญาณหยั่งรู้ในปัจจุบันของผู้อื่นดั่งตาเห็น ถ้าเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จนบรรลุฌานถึงขั้นสามารถหยั่งรู้ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ของผู้อื่นได้ ครูบาอาจารย์ก็จะไม่นำเรื่องเหล่านี้มาทำนายทายทักลูกศิษย์ เพราะเป็นการอวดอุตริ ผิดพระวินัย และผิดหลักคำสอนของพระพุทธองค์ เพราะทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรม พ่อแม่ครูบาอาจารย์จึงไม่ทำนายทายทักใดๆ ทั้งในเรื่อง อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของลูกศิษย์ เพียงแต่จะให้หลักธรรมคำสอนเพื่อไปปฏิบัติตนอยู่ในศีล ในธรรม เพราะการอวดอุตริจะทำให้เกิดความเสื่อมในหลักปฏิบัติ และติดอยู่กับอุบายภูมิ หลุดพ้นจากหนทางเดินสู่พระนิพพาน
จึงทำให้ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะไม่นำเรื่องเหล่านี้มาทำนายทายทักเด็ดขาด จะมีก็แต่ คนนุ่งเหลือง หรือหมอดูต่างๆ ที่นำเรื่องเหล่านี้มาใช้ในการทำนายเพื่อให้เกิดความศรัทธา เพื่อหาผลประโยชน์จากผู้ที่ดวงชะตากำลังตกต่ำจนต้องพึ่งพาการดูดวงตรวจสอบดวงชะตา
โดยคนนุ่งเหลือง และหมอดูเหล่านั้น จะต้องใช้วิชาพรายกระซิบ หรือกุมารในการสื่อเรื่องราวต่างๆ จึงต้องเลี้ยงผี เลี้ยงวิญญาณเพื่อใช้ในการสืบเรื่องราวในปัจจุบันของเรา สืบดูว่าบ้านเรามีลักษณะแบบไหน สืบดูว่าวันนี้เราได้พบเจอผู้ใดมาบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านั้นสามารถทำได้จริงสำหรับผู้ที่ เลี้ยงผี และเลี้ยงวิญญาณ
เมื่อผู้ที่มาตรวจสอบดวงชะตาเกิดความศรัทธา ในความแม่นยำดั่งตาเห็น ก็จะเริ่มอยากเปลี่ยนดวงชะตาของตนเองให้ดีขึ้น ก็จะมีเรื่องพิธีกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยจะต้องใช้เวลาตกฟากของเรา วัน เดือน ปีเกิด เวลาเกิด และอาจจะใช้ เล็บมือ เล็บเท้า เส้นผมของเราในการทำพิธีเพื่อเสริมดวงเสริมชะตา แต่หารู้ไม่ว่าการที่เรามอบดวงชะตาเวลาตกฟากให้กับหมอดู หรือคนนุ่งเหลืองไปแล้ว หมอดูที่ไร้คุณธรรม ก็จะใช้ผีที่เลี้ยงไว้มาคอยตามตัวเราอยู่เสมอ คอยทำให้ดวงชะตาของเราตกต่ำ แล้วต้องกลับมาทำพิธีอยู่ตลอด เมื่อเรากลับมาทำพิธีก็จะปลดมนต์ปลดคาถากำกับวิญญาณออกสักระยะหนึ่ง และหลังจากนั้นก็จะส่งวิญญาณกลับไปทำให้ดวงชะตาตกต่ำแล้วต้องย้อนกลับมาทำพิธีเสริมดวงชะตา วนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดไป
ถ้าถามผมว่าการทำคุณไสย การเล่นของ การใช้มนต์ดำ ในยุคสมัยนี้ยังมีหรือไม่ คำตอบคือ ยังมีอยู่ครับ แต่ไม่สามารถกระทำสิ่งเหล่านี้ได้ต่อผู้ที่มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ ผู้ที่มีหลักธรรมในการดำเนินชีวิต ผู้ที่มีสติ มีปัญญา แต่จะกระทำได้กับผู้ที่มีอาการจิตตก ขาดสติ หรือดวงชะตากำลังตกต่ำ แล้วพยายามแสวงหาหนทางเพื่อให้ชีวิตตนเองดีขึ้น จนได้เข้าไปอยู่ในวังวนของสิ่งที่มองไม่เห็น วนเวียนอยู่ในการตรวจสอบดวงชะตา ทำพิธีกรรม วนเวียนไม่จบไม่สิ้น
โดยเริ่มต้นจากการตรวจสอบดวงชะตา ซึ่งถ้าเจอหมอดู หรือคนนุ่งเหลือง ที่ทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำ ก็จะปักใจเชื่อว่า เป็นผู้วิเศษที่สามารถปลดล็อคดวงชะตาของเราที่กำลังติดขัดอยู่ได้ เพราะในช่วงที่ดวงชะตาของเราตกต่ำ อาจจะเป็นช่วงที่เรากำลังอยู่ในสถานที่ๆ มีพลังงานร้ายในหลักฮวงจุ้ยแล้วได้รับผลกระทบต่อ สุขภาพ การเงิน การงาน ความรัก แล้วส่งผลให้สุขภาพแย่ลง การเงินติดขัด และในที่สุดก็ถูกหลอกจนเสียเงินก้อนโตจากหมอดู หรือคนนุ่งเหลืองที่ไร้คุณธรรม
สรุป การขโมยดวง ไม่ได้มีจริง แต่เป็นการนำดวงชะตาของเราไปทำคุณไสย ใช้คาถากำกับผี ใช้วิญญาณมาทำให้ดวงชะตาของเราแย่ลง เพื่อจะได้วนกลับไปทำพิธีกรรม เพื่อหลอกเอาเงินจากเรานั้นมีอยู่จริงครับ ถ้าท่านเกรงว่าตัวของท่านจะถูกกระทำคุณไสย หรือถูกมนต์ดำ แล้วทำให้ดวงชะตาตกต่ำ วิธีแก้ไขง่ายๆ เพียงแค่ท่านหาน้ำใส่ขันตั้งไว้หน้าหิ้งพระ แล้วขออัญเชิญบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ท่านนับถือเป็นสรณะ มาช่วยเสกน้ำมนต์อันบริสุทธิ์นี้เพื่อนำไปล้างสิ่งที่ไม่ดีออกจากตัวท่าน แล้วนำน้ำมนต์ที่ตั้งจิตอธิษฐาน ไปล้างเท้า คุณพ่อ คุณแม่ แล้วนำน้ำล้างเท้านั้นไปอาบน้ำมนต์ล้างสิ่งไม่ดีออกจากตัวท่าน เพียงเท่านี้สิ่งที่ไม่ดีก็จะหลุดออกจากตัวท่านเอง เพราะใน สามโลกธาตุนี้ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระพุทธองค์ ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระธรรมคำสั่งสอน ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือกว่า คุณพ่อ คุณแม่ ของเรา น้ำมนต์นี้จึงเป็นน้ำมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
ส่วนการพยากรณ์ที่แม่นยำดั่งตาเห็น หมอดู หรือคนนุ่งเหลือง จะใช้ผี หรือวิญญาณในการสื่อ ซึ่งจะแม่นดั่งตาเห็นเพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่คำทำนายทายทักในอนาคตจะไม่มีความแม่นยำใดๆ เลย แต่ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านจะไม่ทำนายทายทักใดๆ ท่านจะให้เพียงหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ เพื่อให้เรานำไปปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นจากบ่วงเวรบ่วงกรรม
เพราะการที่เราถูกกระทำคุณไสย หรือถูกหมอผีทำสิ่งที่ไม่ดีมาสู่ตัวเรา นั่นเป็นเพราะเราเคยมีกรรมเก่าในอดีตชาติเกี่ยวโยงซึ่งกันและกัน วิธีการเดียวที่จะหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ได้ก็คือ การปฏิบัติธรรม การฝึกปล่อยวาง การเจริญสติ จนท่านมองเห็นแสงธรรมในจิต จนเกิดปัญญา แสงธรรมนั้นจึงจะเป็นตัวปลดล็อคจากกรรมต่างๆ ที่เคยทำไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ เพราะไม่มีคาถา หรือพิธีกรรมใดๆ ในโลกใบนี้ที่สามารถตัดกรรมของท่านได้ นอกจากท่านจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนั้นด้วยตัวของท่านเอง
การที่ท่านจะสังเกตได้ว่า ท่านกำลังตกอยู่ในวังวนเหล่านี้ก็คือ ท่านเสียเงินทำพิธีกรรม แล้วตรวจสอบดวงชะตา วนเวียนอยู่แบบนี้อยู่ตลอดแบบไม่มีที่สิ้นสุดหรือไม่ ท่านเข้าวัดทำบุญแบบขาดสติหรือไม่ เป็นสิ่งที่ตัวท่านจะต้องคอยสังเกตตัวของท่านเอง หรือสังเกตคนรอบข้างว่ากำลังตกอยู่ในวังวนเหล่านี้อยู่หรือไม่ ถ้าการที่เราสังเกตแล้วได้สติ ก็จะเป็นการตื่นรู้จากอวิชชา เป็นหนทางที่จะทำให้เราเกิดปัญญา แล้วจะไม่ย้อนกลับไปติดอยู่ในวังวนแบบเดิมๆ
ผมจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อให้ท่านได้ย้อนกลับไปดูว่า ตัวของท่าน หรือคนรอบข้างกำลังยึดติดอยู่ในสิ่งเหล่านี้หรือไม่ เพราะผมมองว่าที่ผมนำเสนอออกมาน่าจะเป็นประโยชน์จากประสบการณ์ที่ผมเคยได้พบเจอมาด้วยตนเอง ท่านเพิ่งอย่ามองว่าคนเหล่านี้มีความโง่เขลา มีความงมงาย เพราะถ้าท่านไม่ตกอยู่ในสถานะที่กำลังเดือดร้อนไม่มีทางออก ท่านก็อาจจะหลงทางเหมือนกับพวกเขาเหล่านั้น
การถูกคุณไสย ถูกมนต์ดำ และการได้รับผลกระทบจากพลังงานฮวงจุ้ยที่เปลี่ยนยุค จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ผู้ที่ถูกกระทำคุณไสยจะขาดสติมากกว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพลังงานฮวงจุ้ยเปลี่ยนยุค วิธีการตรวจสอบง่ายๆ ก็คือ ให้ท่านทดลองปรับพลังงานตามที่ผมเคยสอนไว้ ถ้าส่งผลที่ดีขึ้นนั่นแสดงว่า ท่านไม่ได้ถูกกระทำคุณไสยใดๆ เพียงแต่ว่า ที่สุขภาพของท่านแย่ลง หรือมีเรื่องชู้สาว มีเรื่องทะเลาะกันจนเกือบจะเลิกลากัน เป็นเพราะพลังงานฮวงจุ้ยที่เปลี่ยนยุค ไม่ได้ถูกคุณไสย หรือถูกทำมนต์เสน่ห์ใดๆ
เพราะมีบ้านบางหลังที่ผมเคยไปตรวจสอบฮวงจุ้ยเพราะเจ้าของบ้านคิดว่า โดนกระทำคุณไสย เมื่อผมไปตรวจสอบสถานที่บ้านแห่งนั้น ปรากฏว่าบ้านหลังนั้นได้รับผลกระทบจากพลังงานฮวงจุ้ยเปลี่ยนยุค ไม่ได้ถูกกระทำคุณไสยตามที่เจ้าของบ้านเข้าใจ
ผมจึงพยายามถ่ายทอดวิธีการปรับพลังงานฮวงจุ้ยบ้านให้มากที่สุด เพื่อให้ท่านสามารถพลิกดวงชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดีได้ด้วยตัวท่านเอง เพราะถ้าได้รับผลกระทบจากพลังงานฮวงจุ้ยเปลี่ยนยุคแล้วท่านหลงเดินผิดทาง หลงเข้าไปตรวจสอบดวงชะตากับหมอดูที่ไร้คุณธรรม หลงเข้าไปทำบุญในวัดที่มีคนนุ่งเหลือง ที่คอยหลอกเอาเงินจากท่านโดยอ้างว่าเป็นการทำบุญ แล้วท่านตกอยู่ในวังวนแบบนั้น กว่าท่านจะค้นพบทางออกได้ก็จะต้องใช้เวลา และเสียเงินทองมากมาย
เพราะผมได้ค้นพบแล้วว่า การปรับพลังงานฮวงจุ้ยสามารถนำมาใช้ในการพลิกดวงชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดีได้ ผมจึงเลิกดูดวงมาเกือบ 20 ปี และพยายามถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ผมได้บันทึกสถิติไว้ มาเพื่อให้ท่านนำไปใช้ในการปรับเปลี่ยนดวงชะตาด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งหมอดู หรือซินแส แม้กระทั่งตัวผม เพราะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ผู้ใดค้นพบ และเรียนรู้หลักธรรม เข้าใจธรรมชาติ จะเป็นผู้ที่หลุดพ้นจาก บ่วงกรรม ด้วยตนเอง ครับ
Posted in ฮวงจุ้ย.