บ้านหันหน้าไปรับองศาการไหลเข้าของพลังงานที่ส่งผลดีในฮวงจุ้ยยุค 9 แต่ทำไมกลับส่งผลร้าย?
ในยุคที่ 9 ของฮวงจุ้ย มีหลายคนที่สนใจเรื่องการหันหน้าบ้านไปในทิศทางที่เชื่อว่าจะนำพลังงานที่ดีมาให้บ้าน แต่กลับพบว่าบ้านที่หันไปในทิศทางที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้น กลับส่งผลร้ายอย่างไม่คาดคิด
เพื่อให้เกิดความกระจ่าง วันนี้ผมจะนำตัวอย่างบ้าน 1 หลังที่หันไปในทิศตะวันออก ที่หันไป 90 องศา ซึ่งเป็นหนึ่งในองศาที่ส่งผลดีในทิศตะวันออกในฮวงจุ้ยยุค 9 มาให้ท่านศึกษาดูครับว่าทำไมผมถึงไม่ยอมสอนในเรื่องขององศาตัวอาคาร
รูปที่ 1 บ้านที่ผมนำมายกตัวอย่างนี้หันไปในทิศตะวันออกที่ 90 องศา ซึ่งเป็นองศาที่ส่งผลดีในฮวงจุ้ยยุค 9 ที่จะส่งผลดีไปอีก 10 กว่าปีจนกว่าพลังงานฮวงจุ้ยจะเปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่ และให้ท่านจำไว้ว่าบ้านเปรียบเหมือนกล่องประจุพลังงาน ที่มีทางไหลเข้าของพลังงานผ่านทาง ประตู หรือหน้าต่างทั้งหมด 4 ด้าน
รูปที่ 2 เมื่อผมนำองศาการไหลเข้าของพลังงานสู่บ้านหลังนี้มาคำนวณหาค่าพลังงานจะได้ผลลัพธ์ออกมาดังต่อไปนี้ พลังงานที่ไหลผ่าน ประตู หรือหน้าต่าง ผนังด้านทิศตะวันออก ที่วัดด้วยเข็มทิศได้ 90 องศา และพลังงานที่ไหลผ่าน ประตู หรือหน้าต่าง ผนังด้านทิศเหนือ ที่วัดได้ 0 องศา จะเป็นพลังงานที่ส่งผลที่ดีต่อบ้านหลังนี้ ส่วนพลังงานที่ไหลผ่าน ประตู หรือหน้าต่าง ผนังด้านทิศใต้ ที่วัดได้ 180 องศา และพลังงานที่ไหลผ่าน ประตู หรือหน้าต่าง ผนังด้านทิศตะวันตก ที่วัดได้ 270 องศา เป็นพลังงานที่ส่งผลร้ายต่อบ้านหลังนี้
รูปที่ 3 ดังนั้นบ้านหลังนี้ จะมีพลังงานที่ดีไหลผ่านทางประตู หรือหน้าต่างเข้าทางทิศตะวันออก (ทิศหน้าบ้าน) และทิศเหนือ (ทิศด้านขวาของตัวบ้าน)
รูปที่ 4 ส่วนพลังงานที่ส่งผลร้ายจะไหลผ่านทางประตู หรือหน้าต่างเข้าทางทิศใต้ (ทิศด้านซ้ายของตัวบ้าน) และทิศตะวันตก (ทิศหลังบ้าน)
พลังงานที่ดี และพลังงานที่ส่งผลร้ายก็คือ ประจุไฟฟ้าและความชื้นสัมพัทธ์ที่ปะปนอยู่ในอากาศ ถ้าอยู่ด้านนอกตัวอาคารจะไม่ส่งผลใดๆ เลย แต่เมื่อมีการไหลเข้าสู่ภายในตัวอาคาร ประจุไฟฟ้าในอากาศ จะไหลทำมุมกับแกนองศาแม่เหล็กโลก แล้วนำค่าพลังงานที่แตกต่างกันไหลเข้าสู่ภายในตัวบ้าน หรือที่ผมเรียกว่ากล่องประจุพลังงาน
ในฮวงจุ้ยยุค 9 ใน กล่องประจุพลังงาน 1 ใบ จะมีด้านที่พลังงานไหลเข้าแล้วส่งผลที่ดีอยู่ 2 ด้าน และจะมีด้านที่ส่งผลร้ายอยู่ 2 ด้าน ซึ่งในบ้าน 1 หลังจะมีกล่องประจุพลังงานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับจำนวนห้องนอนภายในบ้านหลังนั้น
ซึ่งบ้านที่ผมนำมายกตัวอย่างเป็นบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน จึงทำให้บ้านหลังนี้มีกล่องประจุพลังงานอยู่ทั้งหมด 4 ใบ ที่มีค่าการไหลเข้าของพลังงานที่แตกต่างกัน กล่องใบที่ 1 คือส่วนกลางของตัวบ้าน และกล่องอีก 3 ใบที่เหลือคือ ห้องนอนอีก 3 ห้อง
รูปที่ 5 จากพฤติกรรมปกติโดยทั่วไป ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวโดยส่วนมากจะไม่เปิดประตูหน้าบ้านทิ้งไว้ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวไม่อยากให้ใครมองเข้ามาในบ้านเวลาเดินผ่าน โดยจะเปิดประตู หรือหน้าต่างด้านข้างบ้าน หรือประตูหลังบ้านให้ลมถ่ายเทเข้ามา สำหรับบ้านหลังนี้จะเปิดให้ลมพัดเข้าทางด้านข้างตัวบ้านจากทิศใต้ ที่มีพลังงานที่ส่งผลร้ายไหลเข้ามาภายในตัวบ้าน
จึงส่งผลให้บ้านหลังนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าระบบประปาและของใช้ภายในบ้านเสียอยู่เป็นประจำ สัตว์เลี้ยงเจ็บป่วย มีเรื่องให้เสียเงินอยู่เสมอ
รูปที่ 6 แปลนชั้น 2 ของตัวบ้านที่เป็นส่วนของห้องนอน ก็จะมีพลังงานที่ไหลเข้าประตู หรือหน้าต่าง แล้วส่งผลที่ดีอยู่ในด้านทิศตะวันออก และทิศเหนือของตัวบ้าน ส่วนพลังงานที่ส่งผลร้ายจะไหลเข้าทางประตู หรือหน้าต่างที่จากผนังด้านทิศใต้ และทิศตะวันตก
รูปที่ 7 พฤติกรรมของผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ หรือพฤติกรรมปกติทั่วไปในปัจจุบันนี้ โดยส่วนมากจะไม่เปิดหน้าต่างห้องนอรรับลมจากด้านนอก แต่จะเปิดประตูห้องนอนเข้าไปแล้วเปิดแอร์นอนเลย จึงทำให้พลังงานที่ไหลเข้าห้องนอนทั้ง 3 ห้อง หรือกล่องประจุพลังงานทั้ง 3 ใบ จะไหลผ่านทางประตูห้องนอนทุกห้อง
รูปที่ 8 ห้องนอนที่ 1 หรือห้อง Master Bedroom เมื่อเปิดประตูห้องนอนรับพลังงานร้ายจากทิศตะวันตก หรือทิศหลังบ้าน เข้ามาประจุอยู่ภายในห้องนอน แล้วส่งผลร้ายต่อผู้ที่อาศัยอยู่ภายในห้องนอน ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นเจ้าของบ้าน หรือผู้ที่หาเงินเข้าบ้าน จึงส่งผลร้ายต่อ การงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก เพราะต้องนอนดูดซับพลังงานร้ายอยู่ถึงวันละ 8 ชั่วโมง
รูปที่ 9 ห้องนอนที่ 2 หรือห้องนอนหลังบ้านด้านซ้าย จากพฤติกรรมที่ไม่เคยเปิดหน้าต่างเลย จึงทำให้พลังงานที่ไหลผ่านประตูห้องนอนจะผนังด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นพลังงานที่ส่งผลดีไหลผ่านประตูเข้าไปประจุอยู่ภายในห้องนอน จึงส่งผลให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องนอนที่ 2 ได้รับผลที่ดีทั้งในเรื่อง การงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก
รูปที่ 10 ห้องนอนที่ 3 หรือห้องนอนหลังบ้านด้านขวา เมื่อเปิดประตูห้องนอนรับพลังงานที่ไหลมาจากผนังด้านทิศใต้ ซึ่งพลังงานที่ไหลผ่านประตูจากผนังด้านทิศใต้ เป็นพลังงานที่ส่งผลร้าย จึงทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในห้องนอนที่ 3 ได้นอนดูดซับพลังงานร้ายตลอดทั้งคืน จึงส่งผลร้ายต่อ การงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก ต่อผู้ที่อาศัยอยู่ภายในห้องนอนที่ 3
รูปที่ 11 สรุปบ้านหลังนี้ ห้องนอนที่ได้รับพลังงานที่ดีจะมีเพียงห้องนอนที่ 2 หรือห้องนอนด้านหลังฝั่งซ้ายของตัวบ้าน ส่วนห้องนอนที่ได้รับพลังงานร้ายเข้ามาประจุอยู่จะเป็นห้องนอนที่ 1 (ห้องนอนหน้าบ้าน) และห้องนอนที่ 3 (ห้องนอนหลังบ้านฝั่งขวา) เพราะมีพลังงานร้ายไหลเข้ามาประจุอยู่ แล้วเข้าไปนอนดูดซับพลังงานไว้วันละ 8 ชั่วโมง หรือ 1 ใน 3 ของชีวิตที่มนุษย์ทุกคนต้องอาศัยอยู่ภายในห้องนอน จึงทำให้ห้องนอนมีผลต่อดวงชะตาของผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องนอนนั้นๆ ขึ้นอยู่กับว่ามีพลังงานที่ส่งผลดีหรือพลังงานที่ส่งผลร้ายร้ายเข้ามาประจุอยู่
จากที่ผมยกตัวอย่างมาในบ้านที่หันไปในองศาที่ดี คือหันไปที่ 90 องศาในทิศตะวันออก ซึ่งเป็นองศาที่หลายๆ ท่าน ได้รับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียวว่า บ้านที่หันไปในทิศที่ดี หรือหันไปในองศาที่ดี แล้วจะมีพลังงานดีทั้งหลัง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ตามที่ผมได้อธิบายมา
แม้กระทั่งวิธีการวัดองศาตัวบ้าน ซึ่งโดยส่วนมากท่านจะยืนถือโทรศัพท์มือถือหันออกไปหน้าบ้าน บางท่านยืนกลางบ้าน บางท่านยืนหน้าบ้าน แล้ววัดให้ได้ 90 องศา ถ้าท่านที่ยืนกลางบ้าน ค่าองศาที่วัดได้จะต้องผิดเพี้ยนแน่นอนเพราะภายในบ้านของท่านมีโลหะที่ส่งผลต่อเข็มทิศในโทรศัพท์มือถือของท่าน
ส่วนท่านที่ยืนวัดองศาหน้าบ้าน ถ้ายืนใกล้กับรถยนต์ซึ่งเป็นโลหะชิ้นใหญ่ ก็จะส่งผลให้เข็มทิศในโทรศัพท์มือถือของท่านคลาดเคลื่อน หรือยืนห่างจากโลหะทั้งหมด แล้ววัดองศาออกไปด้านนอกตัวอาคาร แล้วท่านจะเล็งองศาวัดกับสิ่งใด ทำตรงข้ามบ้านของท่านไม่มีผนังบ้านหลังอื่นให้วัดองศา
เพราะซินแสส่วนมากจะสอนท่านให้วัดองศาในลักษณะนี้ แต่ในความเป็นจริงการวัดองศาที่ถูกต้อง ท่านจะต้องยืนห่างจากตัวบ้านประมาณ 2-3 เมตร แล้วหันกลับมาวัดองศาทิศหลังบ้านของท่าน โดยเล็งโทรศัพท์มือถือ หรือเข็มทิศ วัดตามแนวผนังจากหน้าบ้านเป็นหลังบ้าน สมมุติว่าบ้านหลังนี้ที่หน้าบ้าน 90 องศา ทิศหลังบ้านจะวัดได้ 270 องศา หรือที่เรียกกันว่า ทิศหลังพิง แล้วนำองศาที่วัดได้มาคำนวณ
ขนาดการวัดองศายังต้องหาจุดอ้างอิง แล้วที่ซินแสบางท่านที่ชอบถือจานหล่อแกยืนถ่ายรูปกลางที่ดิน เพื่อทำทรงให้ดูเหมือนเป็นซินแส ท่านเอาอะไรมาเป็นจุดอ้างอิงในการวัดองศาครับ หรือซินแสบางท่านที่ชอบถือจานหล่อแก้ดินเข้าไปอธิบายภายในบ้าน โลหะภายในบ้านไม่ได้ทำให้เข็มทิศชิ้นเล็กๆ กลางจานหล่อแกคลาดเคลื่อนได้เลยหรือครับ อันนี้ผมสงสัยจริงๆ ครับ
สำหรับโทรศัพท์มือถือ ท่านไม่สามารถนำมาใช้ในการวัดองศาตัวอาคารได้ ถ้าท่านไม่เชื่อให้ลองนำโทรศัพท์มือถือหลายๆ เครื่องแล้วมาวัดองศาแล้วเปรียบเทียบกัน แล้วดูว่า ตัวเลขที่วัดได้มีค่าองศาที่แตกต่างกันหรือไม่ แล้วท่านจะเข้าใจในสิ่งที่ผมนำเสนอมาตลอด
แม้แต่บ้านของท่านได้บ้านที่หันไปรับพลังงานในองศาที่ส่งผลที่ดี แต่ก็จะมีกล่องประจุพลังงานแยกย่อยอยู่ภายในบ้าน ที่ส่งผลต่อดวงชะตาผู้อยู่อาศัยมากที่สุดนั่นก็คือ ห้องนอนตามที่ผมได้อธิบายมาในเบื้องต้น
และเมื่อท่านได้พลังงานที่ส่งผลดีไหลเข้ามาภายในบ้านของท่าน สิ่งต่อไปที่ท่านจะต้องทำให้ถูกก็คือ การสร้างวงจรพลังงานภายใน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ วัสดุต่างๆ ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการปรับสมดุลพลังงานภายในบ้านของท่าน
ต่อให้ท่านรู้ว่า องศาทิศหันหน้าบ้านองศาไหนที่ส่งผลดี สุดท้ายท่านก็จะต้องมาปรับวงจรพลังงานภายในให้ถูกหลัก เพราะองศาพลังงานที่ส่งผลทึ่ดีเป็นเพียงกระดูมเม็ดแรก หรือขั้นตอนแรกเท่านั้นในการจัดฮวงจุ้ย ยังมีอีก 8 ขั้นตอน ในแต่ละกล่องประจุพลังงานที่ท่านจะต้องค้นหาให้เจอ
เพราะบ้านแต่ละหลังจะมีกล่องประจุพลังงานที่มีขนาดไม่เท่ากัน การกระจายตัวของพลังงานก็จะมีความแตกต่างกัน วงจรพลังงานภายในก็จะมีตำแหน่งที่ไม่เหมือนกัน ถ้าท่านมัวแต่ท่องจำข้อมูลตายตัว โดยที่ท่านไม่เคยฝึกสังเกตใดๆ เลย สุดท้ายท่านเมื่อได้อาศัยอยู่ในบ้านที่มีองศาที่ดี หรือเป็นบ้านที่ซินแสเลือกซื้อให้ แต่กลับส่งผลร้ายเพราะท่านไม่เข้าใจในหลักของพลังงานฮวงจุ้ย จากข้อมูลที่ซินแสจะใช้เพียงแปลนบ้านเพียงแปลนเดียว มากำหนดพลังงานฮวงจุ้ยบ้านทั้งหลัง หรือพฤติกรรมของผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนั้นที่มีความแตกต่างกันตามที่ผมได้อธิบายมา
ความเชื่อเรื่องการหันหน้าบ้านตามองศาฮวงจุ้ย
มีหลายคนเชื่อว่าการหันหน้าบ้านไปในทิศทางที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย จะนำพลังงานที่ดีมาสู่บ้าน ซึ่งในยุคที่ 9 ของฮวงจุ้ย ทิศตะวันออกที่ 90 องศาถูกมองว่าเป็นทิศที่ดี ทว่า การหันหน้าบ้านไปในทิศทางนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้บ้านได้รับพลังงานที่ดีทั้งหมด
ทำไมบ้านที่หันหน้าไปในทิศทางที่ดีจึงส่งผลร้าย?
แม้ว่าบ้านจะหันหน้าไปในทิศที่ดีตามฮวงจุ้ย แต่พลังงานที่ไหลเข้ามาผ่านทางประตู หน้าต่าง และผนังแต่ละด้านของบ้านก็แตกต่างกัน ในกรณีของบ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่ 90 องศา พลังงานที่ไหลเข้าทางทิศตะวันออกและทิศเหนืออาจส่งผลดี แต่พลังงานที่ไหลเข้าทางทิศใต้และทิศตะวันตกอาจส่งผลร้าย ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย สัตว์เลี้ยงเจ็บป่วย และปัญหาทางการเงิน
การจัดการพลังงานภายในบ้าน
การจัดการพลังงานภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ การเปิดประตู หน้าต่างในทิศทางที่พลังงานดีไหลเข้า และปิดทางที่พลังงานร้ายไหลเข้า สามารถช่วยลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ได้ นอกจากนี้ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของภายในบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยก็มีความสำคัญเช่นกัน
สรุป
การหันหน้าบ้านตามองศาฮวงจุ้ยไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้บ้านได้รับพลังงานที่ดี การสังเกตและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พื้นที่ภายในบ้าน การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และการเปิด-ปิดประตูหน้าต่างอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บ้านได้รับพลังงานที่ดีอย่างแท้จริง
คำแนะนำสำหรับผู้อยู่อาศัย
- ฝึกสังเกตพลังงานที่ไหลเข้ามาภายในบ้าน
- ปรับเปลี่ยนการเปิด-ปิดประตูและหน้าต่างตามทิศทางของพลังงาน
- จัดวางเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย
- ทดลองและบันทึกผลการเปลี่ยนแปลง เพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณ
หากคุณสามารถทำตามคำแนะนำเหล่านี้ได้ บ้านของคุณจะได้รับพลังงานที่ดี และช่วยส่งเสริมความสุขและความเจริญรุ่งเรืองให้กับผู้อยู่อาศัยในบ้านของคุณได้อย่างแน่นอน